จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น. ของวันนี้ (12 ส.ค. 68) กองทัพบกได้รับรายงานว่า หน่วยทหารพรานร้อย.ทพ.2610 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่ที่ช่องจุ๊บตาโมก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทางทิศตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ได้เหยียบทุ่นระเบิด ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขา 1 นาย
ก่อนจะทราบต่อมาว่า ทหารนายดังกล่าวคือสิบเอก ธีรพล หรือแกละ เพียขันที อายุ 48 ปี ตำแหน่ง ผบ.ชุดปฎิบัติการ ชป. ร้อย ทพ.กรม ทหารพราน 26 ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำ นั้น
โดยขณะที่บ้านของแม่ของสิบเอก ธีรพล ที่ ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พบชาวบ้านมาให้กำลังใจนางสาคร เพียขันที อายุ 78 ปี แม่ของสิบเอกธีรพล เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็นหน่วยกู้ภัยฮุก 31 ได้เอาข้าวของมาให้กำลังใจด้วย
นางสาคร เล่าว่า ลูกชายสมัครเป็นทหารพรานได้ประมาณ 23 ปี ทุกครั้งที่ลูกชายจะไปทำงานตามชายแดน หรือกลับจากชายแดนจะเข้ามากราบเท้าแม่แล้วเอาเท้าแม่เหยียบที่หัวทุกครั้ง นอกจากนั้น ลูกชายมักจะฉีกเอาชายผ้าถุงของแม่ ติดตัวไปด้วย
หลังจากมีคำสั่งให้เตรียมความพร้อมก่อนจะมีการรบกัน ลูกชายได้เก็บรถ เก็บข้าวของแล้วเดินทางไปในวันที่ 23 ก.ค. และทุกวันลูกชายจะโทรศัพท์มาคุยกับแม่และครอบครัวทุกวัน ถึงแม้จะมีการหยุดยิงไปแล้วก็ตาม แต่ลูกชายก็จะโทรมาเป็นประจำเหมือนที่เคยโทร
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ลูกชายได้โทรมาว่าสบายดีไม่เป็นอะไรแล้วเพราะหยุดรบบแล้ว ตนก็ดีใจว่าลูกปลอดภัยแล้ว แต่เพียงข้ามคืนกลับได้รับข่าวว่าลูกชายขาขาด
นางสาคร เล่าทั้งน้ำตาว่า ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ดีใจที่ลูกชายได้รับใช้ชาติ ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว หลังจากนี้ทางบ้านก็จะดูแลลูกชายต่อไปถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ขณะที่นายธนาศักดิ์ เพียขันที อายุ 21 ปี ลูกชายสิบเอกธีรพล เล่าว่าตนเองเห็นพ่อเป็นทหาร แต่งตัวทหารแล้วรู้สึกชอบ เห็นพ่อเป็นไอดอลของตัวเองเสมอ พอปีนี้ตนอายุครบ 21 ปี ซึ่งจะต้องถึงเวลาเกณฑ์ทหาร จึงไปสมัครเป็นทหารจะเข้าประจำการผลัด 2 ในเดือนพ.ย. นี้