กระทรวงข่าวสารกัมพูชา ออกหนังสือประท้วงไทยรุกล้ำดินแดนด้วยการวางลวดหนาม และสิ่งกีดขวางแบ่งเส้นเขตแดนหมู่บ้านชายแดน ไทย-กัมพูชา โวยละเมิด MOU ปี 2543 และละเมิดอำนาจของ JBC
วันนี้ (15 ส.ค. 68) กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้เผยแพร่เอกสารของคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ฝ่ายกัมพูชา ที่ได้มีการออกแถลงการณ์ประท้วง หลังคณะผู้ตรวจการณ์ชั่วคราว (Initial Observation Team – IOT) จาก 7 ประเทศ ซึ่งนำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำกัมพูชา ลงพื้นที่ชายแดน กัมพูชา-ไทย บริเวณจังหวัดบันทายมีชัย เมื่อวานนี้ (14 ส.ค. 68)
โดยกระทรวงข่าวสารกัมพูชาประณามว่า กองทัพไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมอ้างถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ รวมถึงการติดตั้งลวดหนาม, ตาข่าย, สิ่งกีดขวาง และยางรถยนต์ตามแนวชายแดนหมู่บ้านในอำเภอโอจเริว จังหวัดบันทายมีชัย ซึ่งมีพื้นที่ตรงข้ามกับอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา กองทัพไทยได้ติดตั้งลวดหนาม, ตาข่าย สิ่งกีดขวาง และยางรถยนต์ตามแนวชายแดนระหว่างด่านตรวจชายแดนหมายเลข 46 ถึง 47 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านจุ๊กเจย ตำบลอูเป่ยฉวน จังหวัดบันทายมีชัย
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่คล้ายกันระหว่างด่านชายแดนหมายเลข 42 และ 43 ในหมู่บ้านเปรยจันที่อยู่ใกล้เคียง
ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม กองทัพไทยได้พยายามดำเนินการแบบเดียวกันนี้ใกล้กับด่านชายแดนบึงตระกวน ในหมู่บ้านบันเตีย เมียนริธ และหมู่บ้านถนอลแรก ตำบลกกรมเอียด อำเภอทมาร์ปวก อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวของกองทัพไทยต้องหยุดลง เมื่อพลเรือนและกองกำลังความมั่นคงของกัมพูชา รวมถึงผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหมต่างชาติ เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ทำให้กองกำลังไทยต้องล่าถอย
ความพยายามฝ่ายเดียวของกองทัพไทยในการยึดครองดินแดนด้วยการติดตั้งลวดหนาม สิ่งกีดขวาง และการติดตั้งยางรถยนต์ตามแนวชายแดนดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของ MOU ปี 2543 และกฎหมายระหว่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ยังละเมิดอำนาจของ JBC ด้วย ทางกัมพูชาจึงขอให้กองทัพไทยรื้อถอนลวดหนาม ตาข่าย และยางรถยนต์ทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยทันที
