ป.ป.ช. ปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการตำบลมั่นคงฯ พบซื้ออาหารเป็ด-ไก่ แพงกว่าท้องตลาด เป็นการจัดซื้อจากพ่อค้าคนกลาง จัดซื้อต่างพื้นที่และไม่มีหน้าร้านอยู่จริง ส่อผิดระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง
วันนี้ (25 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า เมื่อเดือน ก.ค.68 ป.ป.ช.จังหวัดปัตตานี ร่วมกับชมรม STRONG ปัตตานี และคณะทำงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์การดำเนินโครงการภายใต้กิจกรรมตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย โดยผ่านกลไกสภาสันติสุขตำบล ๆ ละ 500,000 บาท จำนวน 111 ตำบล รวมงบประมาณกว่า 55,000,000บาท
โดยกิจกรรมดังกล่าวดำเนินงานในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี อ.ยะรัง อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี อ.โคกโพธิ์ และ อ.ไม้แก่น โครงการส่วนใหญ่เป็นการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมือง ไก่ไข่ เป็ดเทศ และเป็ดไข่ มีสภาสันติสุขตำบลเป็นผู้คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายตามความต้องการของประชาชนในตำบล และกลุ่มเป้าหมายครัวเรือนยากจนแบบชี้เป้า โดยมีที่ว่าการอำเภอเป็นผู้จัดหาพัสดุ เช่น พันธุ์ไก่ พันธุ์เป็ด อาหารไก่ อาหารเป็ด อุปกรณ์โรงเรือน ฯลฯ มอบให้กลุ่มเป้าหมายในแต่ละตำบล ๆ ละ 500,000 บาท
ทั้งนี้ จากการสุ่มตรวจสอบการจัดหาพัสดุเพื่อมอบให้กลุ่มครัวเรือนเป้าหมายของที่ว่าการอำเภอในแต่ละพื้นที่ พบข้อเท็จจริงว่า กรณีตำบลที่เกษตรกรมีการเลี้ยงเป็ด/ไก่ พบว่าการมีซื้ออาหารเป็ด/ไก่ แพงกว่าราคาท้องตลาดประมาณร้อยละ 25 – 30 หรือแพงกว่ากระสอบละ 100 - 200 บาท เช่น อาหารไก่โปรตีน 14% ราคาขายในท้องตลาดกระสอบละ 400 - 420 บาท แต่โครงการนี้จัดซื้อกระสอบละ 570 - 600 บาท อาหารเป็ดโปรตีน 16% ราคาขายในท้องตลาดกระสอบละ 460 – 480 บาท แต่โครงการจัดซื้อกระสอบละ 690 บาท เป็นต้น สาเหตุหลัก คือ ไม่ได้ซื้อจากผู้มีอาชีพโดยตรงตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐปี 60 แต่ซื้อจากพ่อค้าคนกลาง
โดย ป.ป.ช.ปัตตานี ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าให้กับโครงการ พบว่าไม่มีหน้าร้านอยู่จริง ตัวอย่างเช่น พื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี มีตัวแทนจำหน่ายอาหารสัตว์ซึ่งเป็นผู้มีอาชีพโดยตรงอยู่ในตลาด แต่กลับไปซื้อต่างอำเภอหรือแม้กระทั่งต่างจังหวัด โดยซื้อแพงกว่ากระสอบละกว่า 100 บาท การจัดซื้อดังกล่าวเป็นการจัดซื้อต่างพื้นที่และไม่มีหน้าร้านอยู่จริง และคนกลางอาจไม่มีใบรับรองหรือใบอนุญาตของทางราชการในการจำหน่ายอาหารสัตว์หรือพันธุ์สัตว์ ส่งผลเสียหรือมีความเสียหายจากการไม่ได้ซื้อจากผู้มีอาชีพโดยตรง คือ จัดซื้อราคาแพง ซื้ออาหารสัตว์ได้ปริมาณที่น้อยลงส่งผลให้ช่วงเดือนท้าย ๆ เกษตรกรไม่มีเงินซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ แทนที่จะเลี้ยงได้ 3-4 เดือน แต่เมื่อซื้อแพงใช้เลี้ยงได้แค่ 2 เดือนอาหารก็หมด เกษตรกรต้องใช้เงินส่วนตัวซื้ออาหารเองหรือต้องขายเป็ด/ไก่ เพื่อนำเงินมาซื้ออาหาร และอาจได้รับอาหารสัตว์ที่ไม่มีคุณภาพ เนื่องจากผู้ขายไม่มีใบรับรอง/ใบอนุญาตตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ปัตตานี จะได้ทำการสุ่มตรวจสอบสืบราคาพันธุ์เป็ด/ไก่ ที่มีการจัดซื้อเพื่อนำมามอบให้แก่กลุ่มเป้าหมายตามโครงการว่า มีการจัดซื้อราคาแพงในลักษณะจัดซื้อจากคนพ่อค้ากลางเช่นเดียวกันหรือไม่ โดย ป.ป.ช. ปัตตานี จะทำรายงานปัญหาที่ตรวจพบและตั้งข้อสังเกตให้ ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดสรรงบประมาณทราบ เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันการทุจริตในปีต่อ ๆ ไป
