มือปืนกราดยิงกลางโรงเรียนคาทอลิกแห่งหนึ่งในรัฐมินนิโซตา สหรัฐฯ ทำให้เด็กอายุ 8 และ 10 ขวบ เสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 17 คน หลังจากนั้นมือปืนลั่นไกจบชีวิตตัวเอง
วันนี้ (28 ส.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงในโรงเรียนคาทอลิกแห่งหนึ่งที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (27 ส.ค. 68) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีเด็กเสียชีวิต 2 คน อายุ 8 และ 10 ขวบ และมีเด็กได้รับบาดเจ็บอีก 17 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 14 คน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า มือปืนเริ่มก่อเหตุที่โบสถ์ภายในโรงเรียนแห่งนี้ ขณะที่ผู้คนกำลังกำลังร่วมพิธีมิสซา โดยมือปืนพร้อมปืน 3 กระบอก ประกอบด้วย ปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง และปืนพก ได้เริ่มยิงปืนผ่านหน้าต่างของโบสถ์ หลังจากนั้นมือปืนได้ลั่นไกจบชีวิตตนเองที่ด้านหลังของโบสถ์ ซึ่งทางตำรวจสามารถระบุตัวคนร้ายได้ว่าคือ นายโรบิน เวสต์แมน อายุ 23 ปี ไม่มีประวัติอาชญากรรมที่สำคัญ แต่เป็นอดีตนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ที่สำเร็จการศึกษาไปเมื่อปี พ.ศ.2560 ตามข้อมูลในหนังสือรุ่น ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อจริงว่า “โรเบิร์ต”
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจที่แน่ชัด แต่กำลังสอบสวนว่าอาจเป็นการก่อการร้ายจากความเกลียดชังต่อชาวคาทอลิก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่าคนร้ายยิงจากภายในอาคารทั้งหมดหรือจากภายนอกด้วย เนื่องจากเกิดความสงสัยที่ไม่พบปลอกกระสุนภายในโบสถ์
โดยก่อนมือปืนจะลงมือกราดยิงเขาได้มีการอัดคลิปวิดีโอโชว์ปืนและแม็กกาซีนบรรจุกระสุน ซึ่งมีการเขียนชื่อและคำต่าง ๆ ไว้ที่ปืนและแม็ก นอกจากนี้ยังมีสมุดบันทึกเกี่ยวกับความรู้สึกหดหู่ใจ และความปรารถนาที่จะก่อเหตุกราดยิง
ทางผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและพร้อมมอบความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของเหยื่อ
ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศให้มีการลดธงชาติสหรัฐฯ ลงครึ่งเสาเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ฐานข้อมูลของ Gun Violence Archive ระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้เกิดเหตุกราดยิงแล้ว 287 ครั้งในสหรัฐ ซึ่งคือเหตุความรุนแรงจากอาวุธปืนที่มีเหยื่ออย่างน้อย 4 ราย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียชีวิตหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยไม่รวมคนร้าย
