เมียสุดช็อก! เจอโครงกระดูกสามีในบ่อเกรอะหลังบ้าน หลังหายตัวไร้ร่องรอยนาน 3 ปี
วันที่ 2 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกปริศนาในบ่อเกรอะร้าง ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 7 บ้านโคกลุงกราด ต.แหลมทอง อ.หนองบุญมาก จึงรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองบุญมาก หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ่อเกรอะเก่าที่ไม่ได้ใช้งาน ตั้งอยู่ด้านหลังบ้าน ล้อมรอบด้วยป่าข้าวโพด จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนหนึ่ง พร้อมเสื้อผ้าติดอยู่กับร่างกาย ภายหลังทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเคยมีผู้อยู่อาศัยชื่อ นายเสิง อายุ 65 ปี ซึ่งได้หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 โดยญาติได้เข้าแจ้งความบุคคลสูญหายไว้ที่ สภ.หนองบุญมาก เจ้าหน้าที่จึงนำโครงกระดูกส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นนายเสิงจริงหรือไม่
ต่อมา ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สอบถาม นางทวี หรือ “ยายปั่น” อายุ 60 ปี ภรรยาผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ขุดพบโครงกระดูก เล่าว่า ขณะกำลังถอนหญ้าอยู่หลังบ้าน พบดินทรายไหลเข้าไปอุดบ่อเกรอะร้าง จึงใช้จอบกับถังตักออก แต่กลับเจอกระดูกโผล่ขึ้นมา ตอนแรกคิดว่าเป็นกระดูกสัตว์ จึงขุดต่อไปจนพบโครงกระดูกหลายชิ้น และในที่สุดเจอกระโหลกศีรษะพร้อมเสื้อผ้า เมื่อตรวจดูใกล้ ๆ จึงจำได้ว่าเป็นเสื้อของสามีที่หายตัวไปนานกว่า 3 ปี
นางทวี เล่าย้อนว่า ตั้งแต่ปี 2565 สามีหายตัวไปโดยไม่มีใครทราบชะตากรรม ตนเคยได้ยินข่าวลือจากชาวบ้านว่าสามีไปอยู่กับเมียใหม่ และมีคนพบเห็นที่ตลาด จึงเชื่อว่าสามีหนีไปเอง ไม่ได้ติดตามต่อ คิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่ กระทั่งมาพบโครงกระดูกในครั้งนี้
ทั้งนี้ ผู้ตายเคยดื่มสุราเป็นประจำ และคาดว่าวันเกิดเหตุอาจมีฝนตก ขณะเมาสุราแล้วเดินออกไปดูน้ำหลังบ้าน ก่อนพลัดตกลงไปในบ่อเกรอะโดยไม่มีใครเห็น เนื่องจากพื้นที่ด้านหลังเป็นป่ารกทึบ นางทวีเผยด้วยว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา เคยได้กลิ่นเหม็นเน่าอยู่บ่อยครั้ง แต่เข้าใจว่าเป็นกลิ่นน้ำหมักชีวภาพที่สามีเคยทำจากซากสัตว์ต่าง ๆ จึงไม่เอะใจ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์จากนิติวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันตัวบุคคลและหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป