เคาะ 5 ก.ย.โหวตนายกฯ คนที่ 32

View icon 93
วันที่ 4 ก.ย. 2568 | 07.01 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้บรรจุระเบียบวาระในการโหวตนายกฯ คนที่ 32 ในวันที่ 5 กันยายน หลังจากเมื่อวาน (3 ก.ย.) พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ได้ลงนามในข้อตกลงร่วม เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกนายกฯ คนใหม่ และยุบสภาผู้แทนราษฎร

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ลงนามในข้อตกลงร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 32 ของไทย รวมถึงจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อเริ่มกระบวนการนำไปสู่การยุบสภาฯ รวมถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เช่นเดียวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ลงนามตอบรับข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งมีเงื่อนไขทั้งหมด 5 ข้อ ประกอบด้วยยุบสภาฯ ใน 4 เดือน, แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256, ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่, พรรคภูมิใจไทยต้องไม่พยายามเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคประชาชนยืนยันจะเป็นฝ่ายค้าน ไม่รับตำแหน่งใดใน ครม.

แต่ปรากฏว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวยืนยันว่า ได้มีการทูลเกล้าฯ ถวายร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ไปตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน เนื่องจากมองว่า "ระบบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว ไม่เป็นครรลองที่ควรจะเกิด"

และถ้าจำกันได้ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 กันยายน มีข่าวว่านายภูมิธรรม ได้เริ่มกระบวนการยุบสภาฯ ไปแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ดักรอสัมภาษณ์นายภูมิธรรม และนายภูมิธรรมก็ปฏิเสธว่ายังไม่ได้ดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีการยื่นยุบสภาฯ ในวันใด ปรากฏว่าพรรคภูมิใจไทย ได้แก้เกมและเดินเกมเร็ว ด้วยการยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขอให้นัดประชุมสภาฯ โหวตนายกฯ โดยให้เหตุผลว่าประเทศมีปัญหาหลากหลายรุมเร้า ทั้งปัญหาชายแดน, ปัญหาเศรษฐกิจ และจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรี

โดยในระหว่างนั้นได้มีการหารือระหว่างวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน เกี่ยวกับการบรรจุระเบียบวาระในการโหวตนายกฯ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลแจ้งว่ามีการทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ แล้ว จึงอาจเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ กระทั่งท้ายที่สุดจึงมีการยื่นเรื่องไปยัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นผู้พิจารณา จนมีการบรรจุระเบียบวาระในวันที่ 5 กันยายน

ซึ่งในวันดังกล่าว ต้องจับตามองว่าพรรคเพื่อไทยจะส่ง นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค มาโหวตสู้หรือไม่ เพราะถ้านับคะแนนเสียงกันแล้ว ก็จะเห็นว่าพรรคเพื่อไทย มีเสียงสนับสนุน 203 เสียง น้อยกว่านายอนุทิน ที่จะมีเสียงสนับสนุนรวม 289 เสียง

ขณะที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ มีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยยอมยกธงขาว และเป็นฝ่ายค้าน หลังจากสำนักงานองคมนตรีได้ตีกลับร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นอีกครั้งหนึ่ง

ถ้าจำกันได้ก่อนหน้านี้ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยให้ความเห็นไว้ว่า รักษาการนายกฯ ไม่สามารถทูลเกล้าฯ ได้ แต่ก็ยังมีนักวิชาการด้านกฎหมายอีกบางส่วน ให้ความเห็นว่าสามารถทำได้

ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอดูความชัดเจนถึงเรื่องดังกล่าว เพราะถ้าหากมีการตีกลับร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ จริง ต้องรอดูว่า นายภูมิธรรม จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า อำนาจของ "ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ" สามารถทำได้หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง