“เรืองไกร” ร้อง ไต่สวน “ภูมิธรรม”ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม?

“เรืองไกร” ร้อง ไต่สวน “ภูมิธรรม”ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม?

View icon 132
วันที่ 4 ก.ย. 2568 | 10.14 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“เรืองไกร” ร้อง ป.ป.ช. ไต่สวน “ภูมิธรรม” พฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่

วันนี้ (4 ก.ย.68) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่งแต่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ว่าเข้าข่ายมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่ และหาก ป.ป.ช. ตรวจสอบไต่สวนแล้ว มีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งแต่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ว่าเข้าข่ายมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ขอให้ ป.ป.ช. รีบดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 ต่อไปโดยเร็ว 

นายเรืองไกร กล่าวว่า ป.ป.ช. ต้องทำการตรวจสอบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่งแต่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ว่าการนำความกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร (พ.ร.ฎ.ยุบสภา) เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 และต่อมาปรากฏข่าวว่าสำนักองคมนตรีส่งคืน ‘ร่างพ.ร.ฎ.ยุบสภา’ เหตุยังมีข้อขัดแย้งทางกม.-ไม่เป็นไปตามระเบียบการนำเสนอเพื่อขอพระมหากรุณา เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีปัญหาข้อขัดแย้งว่ากระทำได้หรือไม่ นั้น มีข้อเท็จจริงเช่นนั้นหรือไม่ ทั้งนี้ขอให้ ป.ป.ช. เรียกพยานเอกสารหลักฐานจากสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มาประกอบการพิจารณาโดยด่วนด้วย 

ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช. ตรวจสอบไต่สวนแล้ว มีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่งแต่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ว่าเข้าข่ายมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) ประกอบมาตรฐานทางจริยธรรม ในข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันเนื่องมาจากการการนำความกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร (พ.ร.ฎ.ยุบสภา) เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 นั้น ขอให้ ป.ป.ช. รีบดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 ต่อไปโดยเร็ว
 
และแม้ต่อมานายภูมิธรรม เวชยชัย จะพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ตาม ป.ป.ช. ก็ต้องไต่สวนต่อไป เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคสาม บัญญัติไว้ส่วนหนึ่งว่า ให้ผู้ต้องคำพิพากษาต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งด้วย ซึ่งตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีจริยธรรมที่ผ่านมา ก็ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปด้วย