กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ แสดงจุดยืน ค้านโหวต “ชัยเกษม” ขณะที่ “พิชิต” มอง “ทักษิณ” อ้างเรื่องสุขภาพบินนอกทุกครั้ง มั่นใจครั้งนี้ก็ไม่กลับไทย
วันนี้ (5 ก.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้ารัฐสภา ถนนเกียกกาย กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นัดรวมตัวมวลชนแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีการใช้รถติดเครื่องขยายเสียงปราศรัยไม่เอานายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย และขอให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ยอมรับเงื่อนไขเพื่อประเทศชาติ ขณะที่การรักษาความปลอดภัย มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ดูแลบริเวณโดยรอบรัฐสภา
นายพิชิต ไชยมงคล หนึ่งในแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ เปิดเผยว่า ปัญหาของประเทศไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา มีเชื้อไฟเกิดจากตระกูลชินวัตร ซึ่งก็คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดังนั้น ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็แล้วแต่ ต้องแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเลิก MOU 43 และ 44 รวมถึงยกเลิกนโยบาย Entertainment Complex และ Casino หากนายกฯ คนใหม่มาจากพรรคเพื่อไทย ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร ควบคุมอยู่ ปัญหานโยบายที่ทำให้รัฐเกิดความเสียหายคงไม่ได้รับการแก้ไข
ส่วนที่มีการยื่นข้อเสนอว่า หากโหวตให้นายชัยเกษมเป็นนายกฯ จะยุบสภาทันทีนั้น ตนมองว่าเป็นเพียงโปรโมชันของนักการเมืองที่แข่งกันยุบสภา ซึ่งจะยุบสภาเร็วหรือช้าก็ไม่เกี่ยวกับข้อเรียกร้องของมวลชน
ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศเมื่อค่ำวานนี้ แม้ต่อมาจะมีการโพสต์อ้างว่าจะกลับมาให้ทันฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีชั้น 14 นั้น ตนมั่นใจว่า นายทักษิณ จะไม่กลับมาประเทศไทยอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมานายทักษิณก็มักจะอ้างปัญหาเรื่องสุขภาพ เป็นเหตุผลในการเดินออกนอกประเทศทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ดูสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี มาครั้งนี้พอจะต้องขึ้นศาลก็อ้างป่วยอีก จึงเชื่อว่าที่ผ่านมานายทักษิณพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจของพรรคเพื่อไทยจนหมดหน้าตักแล้ว แต่ในวันที่สภาเองก็ไม่ยอมรับ นายทักษิณคงหมดหนทางสู้หรือดิ้นรนเพื่อรักษาอำนาจ จึงต้องถอยไปตั้งหลักที่ต่างประเทศ แต่ก็คงไม่กลับมา แสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์แพแตกของพรรคเพื่อไทย หลังจากนี้มั่นใจว่าจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนายทักษิณที่เป็นคนสำคัญกลับไม่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเลือกนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้กังวล เพราะคดีชั้น 14 แม้นายทักษิณจะไม่อยู่ แต่ข้าราชการที่ช่วยเหลือนายทักษิณยังอยู่ และคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะส่งผลต่อการพิจารณาของ ป.ป.ช. ด้วย ข้าราชการ 12 คน รวมถึง พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อาจต้องตกเป็นผู้ต้องหา หรือผู้รับผิดชอบในคดีนี้ ซึ่งตนยืนยันจะผลักดันให้ ป.ป.ช. เดินหน้าเอาผิดกับข้าราชการกลุ่มนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกมุมหนึ่งของรัฐสภา บริเวณแยกเกียกกาย มวลชนคนเสื้อแดงบางส่วน ก็ได้มารวมตัวแสดงจุดยืนสนับสนุนนายชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน โดยระหว่างมวลชนทั้ง 2 กลุ่มมีระยะห่างประมาณ 150 เมตร และมีตำรวจควบคุมฝูงชนคอยรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังไม่ให้ทั้ง 2 กลุ่มเผชิญหน้ากัน