ชาวนาบุรีรัมย์ ร้องตรวจสอบชื่อลงทะเบียนไร่ละพัน หลังพบมีชื่อญาติลงทะเบียนซ้ำซ้อนในที่แปลงเดียวกัน หวั่นเสียสิทธิ์ ด้านเกษตรอำเภอ เผย แจ้งยกเลิกลงทะเบียนได้ แต่ต้องผ่านประชาคมก่อน ขณะที่ ญาติ ยัน ไม่มีเจตนา พร้อมแจ้งยกเลิก
วันนี้ (7 ก.ย.68) นายขจรศักดิ์ พุ่มพวง ชาวนาบ้านโคกยาง ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องเรียนให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หลังลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ในโครงการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ตามนโยบายรัฐบาล แต่กลับพบมีรายชื่อชาวนาอีกรายแจ้งลงทะเบียนซ้ำซ้อนในแปลงเดียวกัน โดย นายขจรศักดิ์ ยืนยันว่า ปีนี้ตนทำนาในแปลงดังกล่าวจริง ส่วนอีกคนเมื่อก่อนเคยทำนาในแปลงนี้ แต่ปีนี้ไม่ได้ทำนาในแปลงดังกล่าวแล้ว แต่กลับไปแจ้งลงทะเบียนทำให้รายชื่อลงทะเบียนซ้ำซ้อน จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำการยกเลิกรายชื่อของชาวนาอีกคนที่ลงทะเบียนซ้ำซ้อนในแปลงเดียวกัน เพราะเกรงจะเสียสิทธิ์ไม่ได้รับเงินไร่ละ 1,000 บาท ทำให้เดือดร้อนไม่มีเงินซื้อปุ๋ย หรือเป็นค่าเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่าชาวนาคนที่แจ้งลงทะเบียนซ้ำซ้อน มีการแจ้งลงทะเบียนและรับสิทธิ์ไร่ละพันอีกแปลงอยู่แล้ว
นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่นาในแปลงดังกล่าวมี 16 ไร่เป็นของญาติพี่น้อง โดยแบ่ง 8 ไร่นำไปจำนอง เหลืออีก 8 ไร่สำหรับญาติทำนาของตัวเอง ซึ่งญาติตนเป็นคนทำนาในแปลงดังกล่าวและไปขึ้นทะเบียนเกษตรมาตลอด กระทั่งเสียชีวิตจึงไม่ได้ทำนา ปีนี้ตนจึงเข้าไปทำนาในแปลงดังกล่าวเนื้อที่ 8 ไร่แทน และก็ไปแจ้งลงทะเบียนเกษตรกรตามสิทธิ์ แต่กลับพบว่านางจิราภา ภรรยาของญาติที่เสียชีวิต ไปแจ้งลงทะเบียนเช่นกัน ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำนาแล้ว จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และยกเลิกชื่อที่ลงทะเบียนซ้ำซ้อนด้วย
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ไปสอบถามนางจิราภา ซึ่งชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 2545 ตนกับสามีทำนาในแปลงดังกล่าวเนื้อที่ 8 ไร่มาตลอด รวมถึงนาอีกแปลงเนื้อที่ 18 ไร่ ก็มีการแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรทั้ง 2 แปลงมาโดยตลอด ตามที่ภาครัฐให้แจ้งขึ้นทะเบียนตามข้อมูลที่ทำนาจริง แต่เวลามีโครงการช่วยเหลือจากรัฐ เช่น โครงการไร่ละพัน ก็จะได้รับสิทธิ์แค่แปลง 18 ไร่แปลงเดียว ปีนี้ก็ได้แจ้งขึ้นทะเบียนทั้ง 2 แปลงตามที่มีการทำนาจริง แต่ก็ได้รับเงินช่วยเหลือในโครงการไร่ละ 1,000 บาทแค่แปลงเดียว ส่วนแปลง 8 ไร่ไม่ได้เงิน ส่วนที่นายขจรศักดิ์ ร้องเรียนว่าตนลงทะเบียนซ้ำซ้อนทั้งที่ไม่ได้ทำนาจริงนั้น เนื่องจากนายขจรศักดิ์ ไม่ได้มาบอกว่าจะทำนาในแปลงนี้ ตนก็แจ้งลงทะเบียน ยืนยันไม่ได้เจตนาจะลงซ้ำซ้อน และพร้อมจะแจ้งยกเลิกให้
ขณะที่นายเพชร มีแสวง ผู้ใหญ่บ้านโคกยาง กล่าวว่า จากข้อมูลที่ผ่านมาก็มีชื่อนางจิราภาลงทะเบียนตลอด เพราะสามีเป็นคนทำนา แต่ปีนี้นายขจรศักดิ์ยืนยันว่าเป็นคนทำนาจริง และได้นำเอกสารหลักฐานมายื่นลงทะเบียน แต่พบว่าในระบบมีชื่อของนางจิราภาลงทะเบียนไปแล้ว จึงเป็นการลงทะเบียนซ้ำซ้อนกัน ซึ่งก็จะได้แจ้งไปทางเกษตรกรตำบล และเกษตรกรรับทราบว่าจะดำเนินการกรณีดังกล่าวอย่างไร
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเฉลิมพระเกียรติ แจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบเบื้องต้น พบว่า นางจิราภาได้ลงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้ง 2 แปลงจริง แต่ได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ไปแค่แปลง 18 ไร่ แปลงเดียว ส่วนแปลง 8 ไร่ ที่มีปัญหาชื่อลงทะเบียนซ้ำซ้อนกันนั้น ยังไม่ได้รับเงิน กรณีดังกล่าวนางจิราภาก็ต้องยกเลิกการลงทะเบียนผู้ปลูกข้าวในแปลง 8 ไร่ดังกล่าวก่อน เพื่อให้นายขจรศักดิ์ซึ่งเป็นผู้ทำนาจริง สามารถลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทได้ แต่ก็ต้องผ่านการประชาคมตามขั้นตอน