กองทัพรัสเซีย เปิดปฏิบัติการโจมตียูเครนครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 3 ปี นับตั้งแต่เริ่มรุกรานยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 โดยมีการใช้โดรน 805 ลำโจมตี และยิงขีปนาวุธอีก 13 ลูก ในจำนวนนี้เป็นขีปนาวุธพิสัยโค้ง 4 ลูก โจมตีกรุงเคียฟ, เมืองโอเดสซา, เมืองเครเมนชุก, เมืองซาปอริซเซียและอีกหลายเมือง โดยเฉพาะที่กรุงเคียฟ อาคารอะพาร์ตเมนต์ขนาด 9 ชั้นหลังหนึ่ง ถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน ในจำนวนนี้มีหญิงอายุ 32 ปีคนหนึ่ง ที่เสียชีวิตพร้อมกับลูกชาย ซึ่งเป็นทารกวัยเพียง 2 เดือน
ทั้งนี้อาคารที่ประชุมคณะรัฐมนตรียูเครนในเขตปาเชอร์สกีของกรุงเคียฟ ได้รับความเสียหายบางส่วนจากแรงระเบิด และเกิดเพลิงไหม้ ถือเป็นครั้งแรกที่อาคารหลักของรัฐบาลยูเครน ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของรัสเซีย ที่ผ่านมา ใจกลางกรุงเคียฟ มีระบบป้องกันทางอากาศที่ดี ครั้งนี้ก็ยังสามารถยิงสกัดโดรนรัสเซียตกถึง 751 ลำ แต่เมื่อถูกระดมโจมตีอย่างหนักก็เกินกำลังจะต้านทานไหว
ด้านประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งเดินทางไปเจรจากับกลุ่ม "พันธมิตรแห่งความเต็มใจ" เรื่องการปกป้องและรับรองความปลอดภัยให้กับยูเครน ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ออกมาเรียกร้องให้ชาติพันธมิตร ทำตามที่ตกลงกันไว้ เพราะการกระทำของรัสเซียในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า เป็นการเจตนาก่ออาชญากรรมสงคราม สังหารผู้บริสุทธิ์ และต้องการให้สงครามยืดเยื้อต่อไป โลกสามารถบีบบังคับอาชญากรสงครามจากกรุงเครมลิน ให้หยุดสังหารผู้คนได้ เพียงแต่ขอให้มีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ร่วมกันเท่านั้น
