ข่าวเย็นประเด็นร้อน - "นางเขื่อน" หญิงชาวกัมพูชาที่ถูกชาวบ้านขับไล่ออกจากหมู่บ้าน หลังทำตัวเป็นสายลับ ชอบโพสต์ภาพชายแดน ได้ข้อสรุปแล้ว คือผลักดันกลับกัมพูชา ไม่ได้ไปคนเดียว ลูก หลาน และญาติ 6 คน ไปด้วย
เป็นภาพชาวบ้าน หมู่ที่ 2 บ้านแซรไปร ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ กว่า 100 คน พากันยกมือไม่เอา "นางเขื่อน" หญิงชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่กับสามีคนไทย เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน หลังชาวบ้านไปรวมตัวที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน โดยขอให้ออกจากหมู่บ้านไป
พฤติกรรม "นางเขื่อน" ชอบทำตัวเป็น "สายลับ" บางคนก็บอกว่าเป็น "ไส้ศึก" ช่วงที่มีการยิงปะทะ มักจะนำรูปยุทโธปกรณ์ทางทหารไทย โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก แม้ผู้นำชุมชนห้ามแล้วก็ไม่ฟัง แถมยังชอบแชร์ข่าวกัมพูชา ที่บิดเบือนกล่าวหาว่า ทหารไทยวางทุ่นระเบิดแล้วก็เหยียบเองจนบาดเจ็บ จนทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ
แม้ นางเขื่อน และญาติ 7 คน จะออกมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเข้ามาอยู่ในไทยอย่างถูกต้อง อยู่กินกับสามีคนไทยนานกว่า 27 ปี ส่วนลูก-หลานก็มีหนังสือเดินทางถูกต้อง ยินดีให้ตรวจสอบ เธอยืนยัน ไม่ได้ทำอะไรผิด เรื่องแชร์ข่าวบิดเบือน เธออ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง
วันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทั้งอำเภอและจังหวัด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่ทหาร นัด นางเขื่อน ลูก-หลาน และญาติ รวม 7 คน ไปสอบข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาว่าจะให้อยู่ในประเทศไทยต่อหรือไม่ โดยมีชาวบ้านไปรวมตัวกันรอฟังข่าว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ก็ได้ข้อสรุป
ส่วนเรื่องการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ ตรวจสอบมือถือ นางเขื่อน พบว่ามีเพียง 2-3 ครั้ง ที่นำภาพการวางระเบิดของทหารกัมพูชา พร้อมกับอธิบายเป็นภาษากัมพูชา ใจความว่า ทหารไทยวางระเบิดเอง เหยียบระเบิดเอง แต่กลับไปกล่าวหาทหารกัมพูชา
ชาวบ้านที่มารอฟังต่างพอใจ ตบมือชื่นชมเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งหมดไปลงบันทึกจับกุมที่ สภ.ภูสิงห์ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอน ก่อนจะนำทั้งหมดไปควบคุมไว้ที่ ตม.ด่านช่องสะงำ
สำหรับนางเขื่อนและลูกสาว ถูกแจ้งข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่ากำหนด ใบอนุญาตสิ้นสุด 8 พฤษภาคม 2566
อีก 5 คน ประกอบด้วย แม่ น้องชาย ลูกชาย ลูกสาว และลูกเขยนางเขื่อน ถูกดำเนินคดีฐานหลบหนีเข้าเมือง ขั้นตอนหลังจากนี้รอส่งฟ้องศาลฯ และมีคำสั่งผลักดันออกนอกประเทศ