ห้องข่าวภาคเที่ยง - สามีนางเขื่อน หญิงชาวกัมพูชาที่ถูกศาลฯ สั่งให้ส่งตัวกลับประเทศ เพราะอยู่ไทยเกินกำหนด นำของโปรดเป็นกุ้งเต้นสด ๆ ไปเยี่ยมแต่เช้า นางเขื่อน วอนขอความปราณีได้กลับไทยอีกครั้ง
หลังจากเมื่อวานนี้ ศาลจังหวัดศรีสะเกษ มีคำสั่งให้ส่งตัว นางเขื่อน ลูก และหลาน รวม 4 คน ที่อยู่ไทยเกินกว่ากฎหมายกำหนด พูดง่าย ๆ คือวีซาขาดอายุ ต้องส่งตัวกลับประเทศกัมพูชา ก่อนนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.ภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรอส่งตัวพร้อมกับแม่ ลูกสาว และลูกเขย ที่ถูกดำเนินคดีฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในเช้าวันนี้ ตามกำหนดคือเดินทาง เวลา 09.00 น. ไปส่งที่ด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แต่พอประสานไปแล้ว พบว่าด่านปิด ไม่เปิดให้ข้ามไป จึงต้องเลื่อนไปส่งที่ด่านบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี ในวันพรุ่งนี้แทน
เช้าวันนี้ นายประสิทธิ์ สามีนางเขื่อน ซึ่งเป็นคนไทย นำข้าวปลาอาหารไปเยี่ยมนางเขื่อนกับครอบครัว โดยนำกุ้งเต้นของโปรดภรรยา ไปให้กินเป็นมื้อเช้า
เจ้าตัวบอกว่า ชีวิตก็คงจะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ หลังไม่มีภรรยา และยังไม่ทราบว่าภรรยาจะถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ 10 ปี หรือเปล่า ตามมาตรการของ ตม. ที่ห้ามผู้ต้องหาที่ไม่ทำตามกฎหมายเข้าประเทศ ต้องรอให้ ตม. แจ้งอีกที
ล่าสุด ตม.แจ้งว่า นางเขื่อน และครอบครัว จะถูกขึ้นบัญชีดำ ห้ามเข้าไทย 10 ปี ตามระเบียบ หากอยู่เกิดกว่ากฏหมายกำหนด 1 ปีขึ้นไป
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางเขื่อน มั่นใจว่าจะได้รับความเมตตาจาก ตม.ไทย ให้กลับเข้ามาอยู่ไทย เธอย้ำว่าหลังจากนี้จะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของชุมชนตลอดไป
ตอนนี้ด่าน ตม.ทั้งในพื้นที่อีสานใต้และพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ปิดตายไม่เปิดทุกกรณี ส่วนด่านที่จะผ่อนผันเปิดได้ จะอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี และตราด เท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่ ตม. ต้องเปลี่ยนการส่งตัว นางเขื่อน และครอบครัว กลับกัมพูชา จากวันนี้เป็นวันพรุ่งนี้แทน โดยเปลี่ยนจากด่านจังหวัดสระแก้ว ไปเป็นด่านบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี
