รับศพ "รถบัส เดอะวอยซ์" สุดเศร้า แฟนสาวยังช็อก เผยมีลางสังหรณ์ก่อนประสบเหตุ ด้านค่ายเตรียมปล่อยเพลงเพื่อสานฝันให้ "รถบัส เดอะวอยซ์" ได้เป็นศิลปินตามที่ตั้งใจไว้ก่อนจะเสียชีวิต
จากกรณีรถกระบะส่งน้ำซิ่งทะลุไมล์ ชนเสาไฟฟ้าล้มวินาศสันตะโร คนขับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนนั่งข้างๆ คือ นายบุญญฤทธิ์ หรือ "รถบัส เดอะวอยซ์" เสียชีวิต เหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีเสาไฟฟ้าล้ม 52 ต้น บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 20 หลัง มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (11 ก.ย.68) ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางสาวสุกัญญา แฟนสาวของรถบัส พร้อมกับเพื่อน ๆ และคนใกล้ชิด เดินทางไปรับศพรถบัสนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดศรีสุพรรณ ต.หนองแอ.หางดง จ.เชียงใหม่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด โดยนางสาวสุกัญญาได้นำเสื้อยืดตัวเก่งซึ่งเป็นเสื้อประจำค่ายเพลงของรถบัสมาด้วย
นางสาวสุกัญญา บอกว่า จนถึงตอนนี้ยังคงรู้สึกช็อกไม่หายกับการจากไปอย่างกะทันหัน เธอและคนใกล้ชิดเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น รถบัสเป็นคนขยัน รับงานร้องเพลงตามร้านอาหารควบคู่ไปกับงานส่งน้ำดื่มที่เป็นงานประจำด้วยและเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น มีความฝันในเรื่องดนตรี อยากเป็นนักร้องอาชีพและมีเพลงเป็นของตัวเอง ที่ผ่านมาแม้จะมีงานหลักแต่ก็ไม่เคยทิ้งความฝัน เสียใจที่วันนี้ไม่มีโอกาสได้ทำตามความฝันให้สำเร็จ
ก่อนเสียชีวิตรถบัสไม่สบายและลาป่วย บอกว่าฝันเห็นตัวเองขับรถคันนี้ไปส่งน้ำดื่ม จากนั้นไม่กี่วันก็เสียชีวิต ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นลางสังหรณ์เตือนล่วงหน้า สำหรับการจัดงานศพทางค่ายเพลงลายไทยเรคคอร์ด ซึ่งเป็นต้นสังกัดได้ช่วยเหลือเงินมาแล้วบางส่วน ส่วนนายจ้างยังไม่ได้ติดต่อ โดยจะรอเสร็จงานศพจะติดต่อสอบถามไปอีกครั้ง
ด้าน นายรุสิชล หรือ สันต์ เดอะวอยซ์ เพื่อนร่วมการประกวดในซีซั่นเดียวกัน บอกว่า ไปเจอและรู้จักกันที่รายการประกวด หลังจากนั้นได้ติดต่อพูดคุยกันมาตลอด ทำให้ทราบว่ารถบัสเป็นคนที่มีความขยันทำมาหากิน ที่ผ่านมาทำทุกอย่างทั้ง ขับรถส่งของ ขายอาหารปิ้งย่าง มีความฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะเป็นศิลปินที่ร้องพลงให้ทุกคนได้ฟังละมีรายได้มาดูแลครอบครัว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสอีกแล้ว หลังจากนี้เพื่อน ๆ และทางค่ายจะปล่อยเพลงที่ทำไว้อีกกว่าสิบเพลงลงในช่องยูทูปของค่ายลายไทยเรคคอร์ดเพื่อสานฝันให้กับรถบัสได้เป็นศิลปินตามที่ตั้งใจ
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดี พ.ต.อ.เสวก ชูศิริ ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตรวจพบในตัวคนขับรถ 29.2 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะดำเนินคดีฐานเมาแล้วขับ แต่พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดฐานขับรถโดยประมาทที่พนักงานสอบสวนจะต้องแจ้งข้อหาดำเนินคดี คดีนี้เป็นคดีจราจรที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแต่ต้องใช้เวลาเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เข้าไปสอบปากคำคนขับรถเนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลและต้องรอให้ปรับสภาพจิตใจให้ดีขึ้น รวมทั้งต้องรอผลการชันสูตรบาดแผลจากแพทย์เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี นอกจากนี้ยังต้องทยอยสอบผู้เสียหายทั้งหมด ทั้งในส่วนของการไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างประเมินความเสียหายและประชาชนที่ได้รับความเสียหายอีก 20 กว่าราย หากสอบครบแล้วก็จะใช้เวลาไม่นานในการสรุปสำนวนส่งฟ้องศาล
ส่วนประเด็นความรับผิดร่วมของนายจ้าง เป็นเรื่องทางแพ่งระหว่างคู่กรณีที่จะฟ้องดำเนินคดี และพิสูจน์ว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างการจ้างงานซึ่งนายจ้างต้องร่วมรับผิดหรือไม่ โดยทางตำรวจจะช่วยไกล่เกลี่ย