หนุ่มเบื่อชีวิตลักแหวนทองอ้างอยากเข้าไปพักผ่อนในคุก

หนุ่มเบื่อชีวิตลักแหวนทองอ้างอยากเข้าไปพักผ่อนในคุก

View icon 614
วันที่ 11 ก.ย. 2568 | 20.35 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มเบื่อหน่ายกับชีวิต ลักแหวนทอง 2 ร้านติด ยอมรับน้อยใจแม่ ไม่ยอมยกที่ดินให้ ทั้งที่เป็นลูกชายคนเดียว จึงอยากเข้าไปพักผ่อนในคุก ด้านเมียลูกน้อยมาเยี่ยมถึงโรงพัก ช็อกเพิ่งรู้ว่าสามีเสพยา

วันที่ 11 กันยายน 2568 ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายทำทีเป็นลูกค้า เข้ามาซื้อแหวนทอง ลองสวมแหวนแต่เดินหนีออกไปจากร้าน เหตุเกิดที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ชั้น 3 ศูนย์การค้าชื่อดัง กลางเมืองอุดรธานี โดยพนักงานร้านทอง และพนักงานรักษาความปลอดภัย ได้ควบคุมตัวลงมารอตำรวจ ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในร้านทอง บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด ทราบชื่อคือนายภาคิน หรือเต๋า อายุ 30 ปี เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักแหวนทองจริง

สอบถามนายดุก พนักงานร้านทองร้านแรก เล่าว่า คนร้ายเข้ามาขอดูแหวนทองที่ร้าน พูดว่าหากใส่แล้วเดินออกไปจะถูกจับไหม เพราะอยากถูกจับติดคุก ก่อนจะขอลองสวมแหวน และถือเดินออกไปจากร้านทันที จนมารู้ข่าวว่าเข้าไปก่อเหตุที่ร้านทองอีกร้านใกล้กัน จึงเดินไปดูก็พบว่าเป็นชายคนเดียวกัน

ด้านน.ส.นันท์นภัส หัวหน้าสาขาร้านทองที่คนร้ายก่อเหตุ เล่าว่า คนร้ายเข้ามาขอดูแหวนทองที่ร้าน ชี้ไปที่แหวนทองหนัก 2 สลึง ราคา 28,000 บาท จึงหยิบให้ลองสวมดู และถามว่าถ้าเดินออกไปจากร้านจะถูกจับหรือไม่ ตนจึงบอกถูกจับแน่นอน แล้วเขาก็เดินออกไป พวกตนจึงพากันช่วยวิ่งไปดึงตัวไว้ จึงถอดแหวนคืนให้ทันที และยอมรับว่าเป็นการจงใจจะขโมยแหวนทองไปจริง ๆ

สอบถามนายเต๋า ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตั้งใจมาก่อเหตุ เพราะอยากติดคุก ร้านแรกที่เข้าไปมันยังไม่ใช่ จังหวะไม่ได้ ตนจึงมาก่อเหตุซ้ำร้านที่ 2 และที่ทำไปเพราะมีปัญหาชีวิต น้อยใจแม่ที่ไม่ยอมยกที่ดิน 6 ไร่ให้ ทั้งที่เป็นลูกชายคนเดียว ซึ่งตนมีครอบครัวมีภรรยา มีลูกน้อย ตนอยากกลับเข้าไปติดคุกอีก เพราะเคยติดมาแล้ว 1 ครั้ง ข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งรับแทนเพื่อน “ตนมีหนี้สินเรื่องรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1 หมื่นบาท ตนแค่เหนื่อยกับการใช้ชีวิต เบื่อหน่ายชีวิต จึงอยากติดคุก อยากเข้าไปพักผ่อนข้างใน แต่อยากขอโทษแม่และภรรยา และยอมรับว่าเสพยาบ้าเป็นประจำ เสพวันละ 1–2 เม็ด เสพล่าสุดเมื่อ 5 วันที่แล้ว หากติดคุกจริง เมื่อพ้นโทษออกมาจะขอกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ไม่ทำแบบนี้อีก”

ขณะเดียวกัน น.ส.อริสา อายุ 27 ปี ภรรยานายเต๋า ได้อุ้มลูกสาว อายุ 3 ขวบ ได้เดินทางมาเยี่ยมนายเต๋าที่โรงพัก โดยสามีสัญญาว่า จะไม่ทำแบบนี้อีก จะเลิกดื่มเหล้า เลิกเสพยาบ้าด้วย และยอมรับว่าเครียดกับปัญหาชีวิต ที่ต้องการติดคุกเนื่องจากมีอาการหลอนว่ามีคนจะฆ่า และเพิ่งรู้ว่าสามีได้เสพยาบ้า เพราะที่ผ่านมาเข้าใจสามีเมาเหล้า

เบื้องต้นผลตรวจปัสสาวะเป็นบวก และผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนาประสงค์ต่อทรัพย์ ไม่มีเจตนาวิ่งราวทรัพย์ จะไม่เข้าข้อหาแต่อย่างใด และผู้เสียหายก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ตำรวจจึงแจ้งเพียงข้อหาเสพยาเสพติด และทำประวัติผู้ต้องหาเอาไว้ เพื่อป้องปราบไม่ให้กลับมาก่อเหตุลักษณะนี้อีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง