เจ้าของร้านทุเรียน โดนอายัดเงินในบัญชี หลังนำเรื่องโพสต์ลงโซเชียล ธนาคารปลดอายัดให้ทันที

เจ้าของร้านทุเรียน โดนอายัดเงินในบัญชี หลังนำเรื่องโพสต์ลงโซเชียล ธนาคารปลดอายัดให้ทันที

View icon 505
วันที่ 15 ก.ย. 2568 | 07.11 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจ้าของร้านทุเรียน โดนอายัดเงินในบัญชี หลังมีความเชื่อมโยงบัญชีม้า จากลูกค้าชาว สปป.ลาว ที่โอนมาซื้อทุเรียน 16,000 บาท ล่าสุด หลังนำเรื่องโพสต์ลงโซเชียล ธนาคารปลดอายัดให้ทันที พร้อมขอโทษที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนทำการอายัด

14 ก.ย. 68 ที่ร้านทุเรียนพบรัก ริมถนนมิตรภาพสายขอนแก่น-นครราชสีมา  ต.ในเมือ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยได้พูดคุยกับ นางสาววิภารัตน์ ขุนอาจ อายุ 28 ปี เจ้าของร้านทุเรียน และเป็นผู้ที่โพสต์เรื่องดังกล่าว เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า บัญชีธนาคารของตนเองนั้น โดนอายัดไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มารู้ตัว เพราะจะโอนจ่ายเงินค่าสั่งซื้อทุเรียน 300,000 บาท ซึ่งในแอปฯธนาคาร มีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 400,000 บาท แต่ไม่สามารถโอนได้ โดยมีข้อความจากระบบว่ายอดเงินของคุณไม่เพียงพอ พอเห็นแบบนั้นก็ตกใจ รีบไปติดต่อธนาคารทันที โดยทางธนาคารแจ้งว่า ยอดเงินในบัญชีถูกอายัดเอาไว้ เนื่องจากเงินในบัญมีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าที่โอนเข้ามาซื้อทุเรียน โดยบอกให้เรารอการตรวจสอบ 72 ชม. เมื่อครบ 72 ชั่วโมง จะปลดอายัดให้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อได้ฟังก็ไม่ได้คิดอะไรมากถึงกับนิ่งนอนใจ เพราะเชื่อมั่นว่า เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน มองว่าเงินที่ได้รับมานั้นบริสุทธิ์ทั้งหมด แต่พอครบ 72 ชั่วโมงยอดเงินก็ยังไม่ถูกปลดอายัด จึงเดินทางไปสอบถามที่ธนาคารอีกครั้ง ทางธนาคารจึงทำการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีให้ดู ว่าเป็นยอดไหนที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าและตนเองก็พยายามสอบถามทุกอย่างว่าทำไมถึงโดน ทำไมมีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า

ซึ่งพอธนาคารตรวจสอบก็แจ้งว่าจะมียอดเงินจากบัญชีม้า โอนเข้ามาในบัญชีตนเองจำนวน 16,000 บาท และก็ยิ่งสงสัยเข้าไปอีกว่า ในเมื่อธนาคารรู้อยู่แล้วว่าบัญชีม้าโอนเข้ามา 16,000 บาท ทำไมจึงไม่ล็อกแค่เงินจำนวนนั้น แต่ทำไมถึงล็อกยอด 160,000 บาท ซึ่งธนาคารชี้แจงว่าเงินจำนวน 160,000 มีความเชื่อมโยงกัน พร้อมทั้งให้เบอร์ตำรวจไซเบอร์มา ซึ่งตนเองพยายามติดต่อไป แต่ก็โทรไม่ติดสายไม่ว่างตลอด และตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับทางตำรวจแต่อย่างใด และหลังจากที่ทราบว่ายอด 16,000 บาท ทำให้ถูกอายัดนั้น ตนเองก็ได้ทำการตรวจสอบในบัญชีลูกค้าที่โอนมา เพราะมีไม่กี่รายที่จะโอนเงินหลักหมื่น โดยเป็นลูกค้าชาว สปป.ลาว ซึ่งเป็นลูกค้าประจำด้วย จะสั่งทุเรียนเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อนำไปจำหน่ายที่ สปป.ลาว

พร้อมกันนี้ธนาคารยังบอกอีกว่า กรณีการถูกอายัดเงินนั้น อย่างเร็วสุดก็จะประมาณ 7 วัน พอครบ 7 วัน ก็ยังไม่ปลดอายัดให้จึงได้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไปในโซเชียล และก็น่าจะมีคนที่โดนแบบตนเองด้วยต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ทีแรกว่าจะไปแจ้งตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวัน เอาไว้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่หลังจากโพสต์ไปประมาณ 18 ชั่วโมง ในเวลา 10.40 น. มีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาแจ้งว่า ยอดเงินที่อายัดได้ทำการปลดให้แล้ว พร้อมกับขอโทษที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนทำการอายัด และยืนยันกับตนเองว่าทุกอย่างที่อายัดเป็นไปตามกระบวนการ

เจ้าของร้านทุเรียนพบรัก บอกอีกว่า ยอดเงิน 160,000 บาทนั้นจะเป็นยอดรวมขายปลีกและขายส่ง บัญชีธนาคารที่ถูกอายัดเป็นบัญชีสำหรับขายส่ง และบัญชีที่รับโอนเงินหน้าร้านเพื่อขายปลีกจะเป็นอีกธนาคารหนึ่ง โดยยอดเงิน 16,000 บาทที่ลูกค้าชาว สปป.ลาวโอนมาเป็นบัญชีขายปลีก ที่ตนเองจะโอนมารวมไว้ในบัญชีขายส่ง แต่บัญชีที่ลูกค้าชาว สปป.ลาวโอนเข้านั้นไม่ได้ถูกอายัด แต่อายัดอีกธนาคาร ก็ยิ่งทำให้งงให้สงสัย ว่าทำไมธนาคารรู้อยู่แล้ว ว่ายอด 16,000 บาทมีความเสี่ยงทำไมไม่อายัดยอดนั้นไปตรวจสอบ เพราะตนเองพร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์

ซึ่งก็ได้สอบถามทางธนาคารอยู่ว่ามีช่องทางที่จะสามารถชี้แจงได้หรือไม่ ต้องการเอกเอกสารอะไรเราก็พร้อมที่จะส่งให้เพื่อให้ปลดล็อกบัญชีตรงนี้เพราะจำเป็นต้องใช้ เพราะหากสามวันเราก็ยังสามารถรอได้ และแก้ปัญหาด้วยการซื้อของน้อยลงตามเงินที่เรามี แต่ผ่านไป 3 วันแล้วก็ยังไม่ปลดผ่านไปอีก 7 วัน ก็ยังไม่ปลด ทำให้รู้สึกว่านานเกินไป เพราะเงินเราก็ต้องนำไปหมุนค้าขาย และสิ่งที่เกิดขึ้นก็สร้างผลกระทบให้กับทางร้านจากที่จะซื้อทุเรียนเข้าร้านได้ในยอดจำนวน 500,000 ก็ซื้อได้แค่ 300,000 ทำให้ซื้อของมาขายได้น้อยลง รายได้ก็ลดล งไม่เพียงพอต่อรายจ่ายทั้งพนักงานในร้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ