วัดนาป่าพง ชี้แจง เงิน 12.2 ล้านบาท  ไม่ใช่เสน่หา ไม่ได้ฟอกเงิน ยืนยัน คนในวัดไม่เคยโอนเงินให้สีกาเข้าบัญชีส่วนตัว

วัดนาป่าพง ชี้แจง เงิน 12.2 ล้านบาท ไม่ใช่เสน่หา ไม่ได้ฟอกเงิน ยืนยัน คนในวัดไม่เคยโอนเงินให้สีกาเข้าบัญชีส่วนตัว

View icon 366
วันที่ 16 ก.ย. 2568 | 17.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วัดนาป่าพง ชี้แจง เงิน 12.2 ล้านบาท  ไม่ใช่เสน่หา ไม่ได้ฟอกเงิน ยืนยัน คนในวัดไม่เคยโอนเงินให้สีกาเข้าบัญชีส่วนตัว

วันนี้ (16 ก.ย. 68)  ที่วัดนาป่าพง คลอง 10 จ.ปทุมธานี  ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นถูกโยงฟอกเงิน  ทางนายนันทน อินทนนท์ ทนายความ ซึ่งเป็นผู้รับมอบหมายจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ในการชี้แจงในครั้งนี้ โดยระบุว่า เกี่ยวกับการยักยอกเงินและการฟอกเงิน ของวัดนาป่าพง และประเด็นความพยายามในการจะเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างพระอาจารย์คึกฤทธิ์กับสีกาที่มาเป็นโยมอุปัฏฐาก  สีกานี้เป็นบุคคลที่มีตัวตนชัดเจน มีฐานะ มีชื่อเสียงทางสังคม และได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะโยมอุปฏฐากอย่างเปิดเผยมาเป็นเวลานาน  สีกานี้ยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดทำคำสั่งสอน เทศนาต่างๆของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ผ่านสื่อต่างๆ   โดยเฉพาะเพจ Facebook และ Youtube ที่มีชื่อว่า พุทธวจนเรียล ข้อมูลต่างๆที่ถูกนำมาใช้โยงนั้นเป็นวิดีโอ ภาพตัดต่อที่พยามจะเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ของโยมอุปฏฐากกับพระอาจารย์ในลักษณะที่ความแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์เป็นพิเศษ  ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่เปิดเผยมาโดยตลอด หากจะมีการใดที่ไม่เหมาะสม ผู้ดูผู้ชมผู้ฟังย่อมสามารถใช้วิจารณญาณในการตัดสินได้เอง เรื่องสีกา เข้าสู่กระบวนการวินัยสงฆ์ พระอาจารย์ก็พร้อมชี้แจง

ส่วนเรื่องประเด็นทางการเงินที่ถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินและมีการโอนเงินไปให้สีกานั้น หลักฐานใบโอนเงิน เป็นหลักฐานที่อยู่ในมือผู้ฟัง ไม่ได้ปฏิเสธการโอนเงิน การที่เอกสารไปปรากฎในมือคนโพสต์ เริ่มมาจาก การดำเนินคดี ผู้ที่ยักยอกเงินไป ข้อมูลรนั้นสามารถเปิดเผยได้ทุกฉบับ เพราะไวยาวัจกรเป็นคนโอน

ปี 2561 พระอาจาย์มีดำริว่า ต้องการเผยแพร่คำสอนไปต่างประเทศ ซึ่งต้องมีการจัดตั้งวัดก่อน รวมทั้งมีมูลนิธิ ซึ่งต้องมีคณะกรรมการ และเงินทุนเบื้องต้น จนมีการแต่งตั้งคนดังกล่าว เพราะพูดภาษาเยอรมันได้ เป็นรองประธานมูลนิธิ

พระอาจารย์ ทำหนังสือมอบอำนาจให้คนนั้น มีอำนาจดำเนินการทำธุรกรรมทุกอย่างได้ ซึ่งต้องใช้เงินก่อตั้ง 20,000 ยูโร ซึ่งทำยาก และทำหนังสือความไว้วางใจอีกฉบับตามกฎหมายเยอรมัน เบิกถอน ในบัญชีได้หมด

สีกาคนนั้นเปิดบัญชีในไทย พระอาจารย์ก็เปิดบริจาคเพื่อวัตถุประสงค์นี้ ครั้งแรกกำหนดเงิน 6 ล้านบาท ติดต่อญาติโยมคนใกล้ชิด บริจาคส่วนตัว บอกวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าก่อตั้งมูลนิธิที่เยอรมัน ทำแบบนี้ 4 ครั้ง มีการระบุชัดเจน รายงานทราบเป็นระยะ

โอนทั้งสิ้น 27 ครั้ง โอนไป สมาคมพุทธวจน มูลนิธิที่เยอรมันยังสร้างไม่เสร็จ ยอดเงินขาดไปบางส่วน  แนะนำให้พระอาจารย์เปิดบัญชีส่วนตัวที่เยอรมนีจริง การจะขอวีซ่าที่เยอรมนีต้องมีการเงินเป็นหลักแหล่ง แล้วก็มีการถกเถียงกันที่ธนาคารโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว สีกาปิดบัญชีธนาคารสมาคมทันที  ธนาคารก็สงสัยธุรกรรม มีดารโอนเงินเข้าบัญชีใหม่ แล้วปิดบัญชีทันที สงสัยว่าฟอกเงิน อัยการสืบสวนเส้นทางการเงิน จนสั่งไม่ฟ้อง

สมาคมแล้วเสร็จ กุมภาพันธ์ ปี 62 หลังจากนั้น 10 วัน โอนเข้ามูลนิธิ 210,000 ยูโร  และจดทะเบียนภาษีที่เมืองแห่งหนึ่งในเยอรมัน ไม่มีกิจกรรมใดต่อเนื่อง เงินทุนก็ยังอยู่ครบ 210,000 ยูโร ไม่มีเอาไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว

ฟ้องยักยอกสีกา สั่งฟ้องแล้ว รอกำหนดวันสืบพยาน แล้วก็ฟ้องพระกลับ พระฟ้องเรียกดงิน ที่ไม่แสดงรายง่ายได้ และเงินไม่ครบที่อยู่ในบัญชีมูลนิธิ ประมาณ 350,000 ยูโร คดีดำเนินการมาระยะหนึ่ง ขอไม่ลงรายละเอียด

เอกสารส่วนใหญ่เป็นภาษาเยอรมัน ได้ข้อมูลมา ศาลแนะนำให้จำเลย ชำระเงินวัด มีข้อต่อรองว่าลดจำนวนเงินบางส่วน แต่สีกาถอน ทนายคามในเยอรมนีหลายครั้ง ศาลเลื่อนพิจารณาคดีตลอด ไม่มีทนายคนไหนรับว่าความถึง 7 ครั้ง

หลักฐานตอนนี้ จำนวนเงิน 12.2 ล้านบาท ใส่วัตถุประสงค์ชัดเจน ไม่ใช่เสน่หา ไม่ได้ฟอกเงิน ยืนยัน คนในวัดไม่เคยโอนเงินให้สีกาเข้าบัญชีส่วนตัว

ส่วนเรื่องๆอื่น ขอยังไม่ให้คำตอบ เพราะได้รับอนุญาตให้มาตอบแค่เรื่องบัญชีเท่านั้น ไม่มีอะไรต้องปิดบัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง