ศาลรัฐธรรมนูญ รอเอกสารหลักฐานและคำชี้แจงจาก กกต. คดี ภูมิธรรม-ทวี รับฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ แทรกแซงการทำหน้าที่ของ กกต.
วันนี้ (17 ก.ย.68) ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม และ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4 ) ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) หรือไม่
กรณีนี้ สว. เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา อ้างว่า การที่นายภูมิธรรมและ พ.ต.อ.ทวี มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแชงกระบวนการ ตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการกลันแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม จึงถือได้ว่า ทั้ง 2 คน ไม่มีความชื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรี และสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปราย เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้รอความเห็นและเอกสารหลักฐานจากเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามที่ศาลรัฐธธรรมนูญอนุญาตให้ขยาย ระยะเวลาจัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐาน