หนุ่มเขมรซ่า ท้าต่อยหัวหน้างานสัญชาติเดียวกัน หลังหัวหน้าสั่งงาน แต่ไม่ทำ อ้างใช้งานหนักเกินไป เหนื่อยเป็นเหมือนกัน ก่อนขู่หัวหน้าจะเอาค้อนไล่ตี จนตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุ และให้ทั้งคู่เคลียร์ใจกัน
21 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี รายงานว่า ตร.สายตรวจ สภ.เมืองอุดรธานี และตร.ตม.อุดรธานี รับแจ้งมีคนงานชาวเขมรจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ถือค้อนไล่ทำร้ายกัน ที่ไซต์งานก่อสร้างหมู่บ้านที่บ้านโพนบก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบกับนายนะ อายุ 38 ปี ชาวกัมพูชา บอกว่า มีปัญหากับลูกน้องชาวกัมพูชาด้วยกัน ชื่อนายหก อายุ 36 ปี ซึ่งลูกน้องคนนี้ก็เป็นพี่เขยตนเองแท้ๆ ตนเองเป็นคนชวนมาทำงานที่เมืองไทยด้วย แต่พอบอกเร่งให้ทำงาน กลับด่าคืน แล้วบอกไม่ทำ บอกให้ไปไกลๆ ไม่งั้นจะถูกค้อนกู จึงแจ้งความตร.มาระงับเหตุ
ตร.ได้เรียกทั้งสองคนมาพูดคุยกัน แต่จังหวะที่ตร.เรียกมาสอบถามเหตุทะเลาะกัน ปรากฏว่า จู่ๆ ก็มีแรงงานชาวกัมพูชา 2 คนเมื่อเห็นตร.ต่างพากันขี่รถมอเตอร์ไซด์หลบหนีออกจากไซต์งาน คาดว่าจะไม่มีพาสปอร์ตหรือใบอนุญติเข้ามาทำงานจึงพากันหลบหนีไป
นายนะ หัวหน้างาน เล่าให้ตร.ฟังว่า มีเรื่องทะเลาะกันกับนายหก เรื่องขอให้ทำงาน แต่นายหก ไม่ยอม แถมจะถือค้อนไล่ทำร้ายด้วย แต่นายหก ก็บอกว่าหัวหน้างานใช้งานหนักเกินไป เขาเหนื่อยเป็นเหมือนกัน สุดท้ายตร.ได้เคลียร์ใจคนประเทศเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกันแถมเป็นญาติกันด้วย ทั้งสองคนก็มีท่าทีอ่อนลง จับไม้จับมือกันจบลงด้วยดี จากการตรวจสอบเอกสารทั้งสองคนมาถูกต้องเอกสารครบ ตนเองเข้ามาทำงานอยู่เมืองไทย 12 ปีแล้ว แต่มาอยู่อุดรฯ ได้ 5 ปี ส่วนพี่เขยตนเอง ก็เป็นคนชวนมาทำงานที่เมืองไทยด้วย ก็เจ็บใจที่บอกให้พี่เขยทำงานกลับถือค้อนจะไล่ทับหัวเอาแบบนี้ ก่อนมีเรื่อง ผมถามเขาดีๆ ว่าเชื่อมได้ไหมงานเร่ง แต่เขาก็ไม่ยอมทำ ผมก็บอกว่าถ้าไม่เชื่อมจะให้คนอื่นมาทำงานแทน ทำให้พี่เขยไม่พอใจ บอกผมให้ไปไกลๆ ตีน ไม่งั้นจะเอาค้อนไล่ทุบหัวเอา จึงแจ้งตร.มาระงับเหตุดังกล่าว
นายนะ ยังบอกอีกว่า รักประเทศไทย คนไทยก็ใจดี เวลาผมไม่มีเงินไปเซ็นต์ข้าวกิน น้ำมันรถหมด คนไทยก็ให้อยู่เมืองไทย มีงานทำ มีเงินส่งกลับบ้าน ไม่อยากกลับประเทศกัมพูชา เพราะอยู่ที่นั่นลำบาก แต่ทำงานอยู่เมืองไทยมีเงินส่งไปให้ภรรยาและแม่ได้เดือนละเกือบหมื่น ส่วนเรื่องปัญหาชายแดนและปัญหาไทยกัมพูชาตอนนี้ ในฐานะคนธรรมดาอยากให้ผู้ใหญ่ทั้งสองประเทศได้พูดคุยกันให้จบลงด้วยดี พี่น้องสองประเทศจะได้ไปมาหาสู่กันสะดวกขึ้น ไม่ต้องลำบากแบบนี้
