ผิดปกติตั้งแต่กำเนิด อ่อนแอพยายามเอาชีวิตรอดในธรรมชาติ ทำให้บาดเจ็บเพิ่ม ส่งแรงใจให้น้องข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลงตัวล่าสุด มีอาการไม่อยากกินอาหาร พยายามลุกขึ้นยืน คุณหมอให้สารน้ำทางหลอดเลือดเพื่อพยุงอาการ
อัปเดตการรักษาลูกช้างป่าพลัดหลง “ข้าวต้ม” วันนี้ (24 ก.ย.68) กัญจนา ศิลปอาชา แจ้งว่า ทีมสัตวแพทย์ขอรายงานอาการลูกช้างป่าพลัดหลง (ข้าวต้ม) ว่า ค่ำวานนี้ (23 ก.ย 68) เวลา 23.00 น. ลูกช้างป่าข้าวต้ม มีอาการไม่อยากกินอาหาร (นมผงผสมน้ำข้าว) กลืนลำบาก อ่อนแรง ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ สัตวแพทย์ทำการให้สารน้ำเข้าทางหลอดเลือดดำ และป้อนน้ำผึ้ง
ต่อมาเวลา 01.00 - 03.00 น. วันนี้ (24 ก.ย.68) ลูกช้างป่าข้าวต้ม มีแรงมากขึ้น พยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ทั้งนี้ทีมสัตวแพทย์ยังคงให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำต่อเนื่อง เพื่อเป็นการพยุงอาการ
กัญจนา ศิลปอาชา ยังขอบคุณไปยังหมอและพี่เลี้ยง ที่เฝ้าดูแลน้องข้าวต้ม คืนวานนี้คงไม่ได้นอนกัน และอยากให้น้องข้าวต้ม ได้รับรู้ว่า คนรักหนูมาก
วานนี้ (23 ก.ย.68) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เปิดเผยผลการตรวจสุขภาพ “พังข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียแรกเกิดที่พลัดหลงจากแม่ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยพบภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติแต่กำเนิดหลายจุด แม้ไม่พบการแตกหักของกระดูก
จากการตรวจร่างกายเบื้องต้น ณ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก พบว่า “พังข้าวต้ม” มีอายุประมาณ 1 สัปดาห์ น้ำหนัก 118 กิโลกรัม ข้อเท้าหน้าทั้งสองข้างมีลักษณะผิดรูป ไม่สามารถเหยียดตรงได้ และมีอาการเจ็บเมื่อสัมผัสบริเวณสะโพก
ผลการวินิจฉัยเชิงลึกด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ได้แก่ เอกซเรย์: ไม่พบการแตกหักของกระดูก โดยภาพรวมกระดูกเรียงตัวปกติ ยกเว้นบริเวณสะโพกที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ชัดเจน ,อัลตราซาวด์ พบความผิดปกติของเส้นเอ็นบริเวณข้อเท้าหน้า และพบการอักเสบลักษณะก้อนเลือด (Hematoma) ที่สะโพกขวา และมีการเจาะเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อประเมินสุขภาพและโรคสำคัญ คณะสัตวแพทย์สรุปว่าอาการดังกล่าวเกิดจากภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติแต่กำเนิด ประกอบกับภาวะร่างกายที่อ่อนแอและความพยายามเอาตัวรอดในธรรมชาติ อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บเพิ่มเติม
เบื้องต้นได้มีการฉีดยาลดปวดและลดอักเสบ พร้อมวางแผนการรักษาระยะยาว โดยเน้นการให้อาหารเสริมโภชนาการควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูให้ลูกช้างสามารถยืนและเคลื่อนไหวได้ในอนาคต หากอาการไม่ดีขึ้นตามที่คาด ทีมสัตวแพทย์จะดำเนินการตรวจซ้ำอีกครั้ง
สำหรับลูกช้างป่าพลัดหลงตัวล่าสุดนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบลูกช้างป่าเพศเมียในสภาพอ่อนแรงและบาดเจ็บ จึงเข้าช่วยเหลือและตั้งชื่อว่า “ข้าวต้ม” เนื่องจากได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อให้พลังงาน