ที่อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมแนวทางการบรรเทาและแก้ไขปัญหาให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัย จากการคาดการณ์สภาพอากาศและประเมินสถานการณ์น้ำ พบว่าหลายพื้นที่มีแนวโน้มเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ กรมชลประทาน ได้เร่งพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ เพื่อรักษาระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมไว้รองรับฝนที่จะตกลงมาเพิ่ม ควบคู่กับการใช้พื้นที่หน่วงน้ำเพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้ไหลไปกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อน เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และบุคลากร รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำหลากอย่างใกล้ชิด
ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยา ยังคงการระบายน้ำที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำและนอกคันกั้นน้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะแม่น้ำน้อย คลองโผงเผง และคลองบางบาล มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งหลายจุด กรมชลประทานได้กระจายน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก รวม 334 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมประสานจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนล่วงหน้า จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ รวมถึงแผนเยียวยาเกษตรกรหลังน้ำลด
โดยองคมนตรีกำชับให้กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ราษฎรในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีเมื่อต้องเผชิญเหตุ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ราษฎรได้มากที่สุด
