ตอบแค่ ทักษิณ ปรับตัวได้ ไม่ตอบการเมือง

View icon 91
วันที่ 3 ต.ค. 2568 | 06.36 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - "อุ๊งอิ๊ง" และ "เอม" ลูกสาวทั้ง 2 พากันไปเข้าเยี่ยม "นายทักษิณ" ที่เรือนจำกลางคลองเปรม เป็นครั้งที่ 6 อัปเดตให้ฟังแค่อาการป่วยพ่อ แต่ไม่ขอพูดเรื่องการเมือง ส่วนเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ มีเอกสารหลุดออกมา 11 หน้า เป็นความเห็นของ "ทวี" ที่เห็นด้วยกับกรมราชทัณฑ์

ไล่เรียงเหตุการณ์แบบนี้ก่อน เมื่อวานมากันแค่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ที่เข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร ที่เรือนจำกลางคลองเปรม มาถึงก็เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เข้าแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงดังเหมือนทุกครั้ง ตามที่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือไว้

หลังทั้ง 2 เข้าเรือนจำไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ก็กลับออกมา อัปเดตอาการของนายทักษิณ สั้น ๆ ว่าปรับตัวได้ดีขึ้น ยังเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ส่วนคำถามเรื่องอื่น ๆ ไม่ตอบ ก่อนเดินทางกลับทันที

ด้าน ทนายวิญญัติ ก็โพสต์ภาพ และข้อความซึ้ง ใจความบางช่วงบางตอนก็ย้ำว่า เห็นความสุขทั้งที่ขาดอิสรภาพ ความรักที่ส่งผ่านกระจกใสและหนา ไม่ได้ยินเสียงพูด แต่เสียงของหัวใจดังทะลุแนวกั้นนี้ ถึงความเป็นนักสู้ของทั้งสามคน ผมเชื่อว่าหลายคนคิดถึง และรอคอยวันที่ท่านทักษิณได้รับอิสรภาพ

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ประชุมมอบนโยบาย และทิศทางการทำงาน ก็ถูกสื่อฯ ถามถึงกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษของ นายทักษิณ เป็นเรื่องแรก ก็ตอบว่าตอนนี้เรื่องถูกส่งเรื่องกลับมาที่ กระทรวงยุติธรรม เพื่อถามว่าจะยืนยันตามความเห็นที่ส่งไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาหาคำตอบให้ได้ภายใน 3 วัน

คำตอบนี้ก็ทำให้รู้สึกแปลก ๆ เพราะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทำความเห็นไว้อย่างไร ทำไมถึงปล่อยผ่าน

แต่ก็มีคำเฉลยหลุดมากับสายลม ความยาว 11 หน้ากระดาษ เป็นรายละเอียดคดีของ นายทักษิณ เสียส่วนใหญ่ ก่อนลงท้ายความเห็นว่า นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ได้ยอมรับคำพิพากษาของศาลฎีกา โดยยินยอมเดินทางกลับมารับโทษ และมีคุณงามความดีขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งคดี ให้จำคุก 1 ปี จึงเห็นควรยกฎีการายนี้ ตามที่กรมราชทัณฑ์เสนอ จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทในโอกาสอันควร

ไม่รู้เรียกว่าผลที่ตามมาได้หรือเปล่า หลังจาก นายกฯ อนุทิน มอบนโยบายให้กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปเมื่อ 1 ตุลาคม ก็มีข่าวเรื่องหนังสือคำสั่งย้าย พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม

โดยให้เหตุผลเป็นไปตามมติการลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมของ แพทยสภา เป็นระยะเวลา 6 เดือน ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง และในคำสั่งที่ออกมา ก็ให้มีผลเท่ากัน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ ไปสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมปีหน้า

ซึ่ง พลตำรวจโท ทวีศิลป์ ก็ตอบถึงเรื่องนี้สั้น ๆ ว่า น้อมรับคำสั่งผู้บังคับบัญชา และจะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถต่อไป

ส่วนเหตุที่ พลตำรวจโท นายแพทย์ โสภณรัชต์ สิงหจารุ ที่แพทยสภา มีมติพักใบอนุญาต 3 เดือน ในกรณีเดียวกัน แต่กลับไม่ถูกโยกย้าย เพราะมีตำแหน่งเป็น "ผู้ช่วย ผบ.ตร." ทำหน้าที่กำกับดูแลงานบริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้มีหน้าที่บริหารงานภายในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผลจากเรื่องนี้ก็จะมีคำสั่งไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการดูแลโรงพยาบาลตำรวจ อีกเช่นกัน /ส่วนการพิจารณาโทษทางวินัยของตำรวจทั้ง 2 นาย ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ