เบน สมิท มอบทนายฟ้อง โรม หมิ่นประมาท อภิปรายกล่าวหาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรียกเงิน 100 ล้าน ยันไม่ได้ฟ้องปิดปากใคร ด้านศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 24 พ.ย.นี้
วันนี้ (6 ต.ค.68) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ อดีตที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้รับมอบอำนาจจาก นายเบน สมิท (Benjamin Mauer berger) นักธุรกิจชาวต่างชาติ เดินทางมายื่นฟ้องคดี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท นายธนดล กล่าวว่า ตนมายื่นฟ้องหมิ่นประมาทจากกรณีเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ อภิปรายในสภา กล่าวหานายเบนเป็นแก๊งสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเรียบร้อย โดยจะนัดไต่สวนวันที่ 24 พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้นายรังสิมันต์ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการใช้ทีมทนายทีมเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายธนดล กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้ห้ามในเรื่องการทำหน้าที่เป็นทนาย ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสและนายเบนจามินรู้จักกันผ่านทางนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเคยมีการลงทุนที่นครดูไบด้วย โดยตนได้รับมอบหมายให้ดูเรื่องข้อกฎหมายของนายเบนจามินเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ ส่วนความรู้สึกของพี่น้องประชาชนตนไม่สามารถก้าวล่วง หรือห้ามความรู้สึกดังกล่าวได้ และยืนยันว่าตนทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
เมื่อถามว่า การฟ้องอาญา แต่สภามีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่ นายธนดล กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 124 บอกไว้ว่าถ้าเป็นการประชุมรัฐภาแบบปิด เป็นเอกสิทธิ์คุ้มครองทั้ง สส.และสว. แต่ถ้าเกิดถ่ายทอดออกไปให้แก่บุคคลที่ 3 จะไม่ได้คุ้มครองตรงนั้น เมื่อถามว่า เรื่องเงิน 100 ล้านบาท เป็นค่าอะไรบ้าง นายธนดล กล่าวว่า นายเบนจามินทำธุรกิจทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์ค่อนข้างเยอะ สิ่งที่นายรังสิมันต์อภิปราย ทำให้เกิดความเสียหายจนถูกตรวจสอบอย่างละเอียดที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ก็ยังไม่พบความผิดทั้งในประเทศไทยและที่สิงคโปร์
ทั้งนี้ ก่อนจะได้รับมอบอำนาจมาเป็นทนายของนายเบนจามิน เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ตนได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่เคยมีการต้องโทษในคดีต่าง ๆ ส่วนคดีของ กลต. เมื่อปี 2564 ตนตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคนละคนกัน เพียงแต่มีชื่อคล้ายกันเท่านั้น
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ของนายเบนจามินกับสมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นอย่างไรบ้าง นายธนดล กล่าวว่า นายเบนจามินกล่าวกับตนว่าเคยไปลงทุนที่กัมพูชาและชวนนักลงทุนไปลงทุนที่กัมพูชาจริง อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลจริง แต่ไม่เคยเข้าร่วมประชุมและได้รับเงินเดือนจากรัฐบาลกัมพูชาเลย
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส มอบหมายให้เข้ามาเป็นทนายในคดีนี้โดยเฉพาะหรือไม่ นายธนดล กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัสให้ดูแลเรื่องกฎหมายให้กับนายเบนจามินอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะแค่คดีนี้ ซึ่งตนก็ทำหน้าที่ตามวิชาชีพของตนโดยยอมรับว่าอาจจะโดนทัวร์ลงด้วย แต่ตามที่นายรังสิมันต์อภิปรายไปนั้น ถ้าเกิดนายเบนจามินเป็นสแกมเมอร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง สามารถไปแจ้งความได้ทันที และตนจะออกจากทีมกฎหมายของนายเบนจามินอย่างแน่นอน
นายธนดล กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งคำถามไปถึงนายรังสิมันต์อีกว่า ถ้าความจริงไม่เป็นตามที่อภิปรายไปจะรับผิดชอบกับชื่อเสียงของนายเบนจามินอย่างไร จะให้ชื่อเสียงของนายเบนจามินเสียไปเพราะเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ เมื่อถามว่า วันไต่สวนมูลฟ้อง นายเบนจามินจะเข้ามาไต่สวนหรือไม่ นายธนดล กล่าวว่า ตรงส่วนนี้ตนขอปรึกษากับทีมทนาย แต่ในเบื้องต้นจะเป็นตน และพยานบุคคล 2 รายเข้าไต่สวน
เมื่อถามว่า บุคคลอีกคนที่ชื่อคล้ายนายเบนจามิน ร.อ.ธรรมนัส รู้จักหรือไม่ นายธนดล กล่าวว่า ทั้งตนและ ร.อ.ธรรมนัส ไม่รู้จักบุคคลอีกคนที่ชื่อคล้ายนายเบนจามิน รวมถึงไม่ทราบด้วยว่าเจ้าตัวเป็นใคร เพราะไม่ได้มีหน้าที่ไปสืบตรงส่วนนั้น
เมื่อถามว่า การออกมาฟ้องในครั้งนี้ สังคมอาจจะตั้งคำถามว่าเป็นการฟ้องเพื่อปกป้องสิทธิ์หรือปิดปากนายรังสิมันต์หรือไม่ นายธนดล กล่าวว่า นายรังสิมันต์จะพูดอะไรก็ได้เหมือนเดิม ตนยืนยันว่าไม่ได้ฟ้องปิดปาก แต่ถ้าพูดอะไรอย่าทำให้ผู้อื่นเสียหาย ซึ่งนายรังสิมันต์ก็ยอมรับว่าเอาข้อมูลมาจากนายทอม ไรท์ ตนขอถามกลับว่าถ้าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอมจะรับผิดชอบได้ไหม จึงมีความจำเป็นที่ต้องมาฟ้องศาล เพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องที่นายรังสิมันต์พูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่