แม่ร้องมูลนิธิปวีณาฯ เด็กหญิง ม.2 เครียดคิดสั้น เพื่อนบุลลีเป็นโรคร้าย-รปภ.จะขืนใจในป้อม

แม่ร้องมูลนิธิปวีณาฯ เด็กหญิง ม.2 เครียดคิดสั้น เพื่อนบุลลีเป็นโรคร้าย-รปภ.จะขืนใจในป้อม

View icon 769
วันที่ 8 ต.ค. 2568 | 15.25 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (8 ต.ค. 68) จากกรณี นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถูกชายอายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็น รปภ.ของโรงเรียน ล่วงละเมิดทางเพศ และพยายามข่มขืนในป้อมยามหน้าโรงเรียน เหตุเกิดวันที่ 27 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา แถมลูกยังถูกเพื่อนบุลลีโพสต์ใส่ร้ายเป็นโรคร้ายแรง จนเครียดคิดสั้นกินน้ำยาล้างห้องน้ำ โชคดียายช่วยไว้ทัน นำส่ง รพ. นอนรักษาตัวในห้อง ICU ถึง 6 คืน

ขณะที่ นางปวีณา ประสาน พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เพื่อให้แม่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ รปภ.ที่ก่อเหตุแล้วเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา ล่าสุดทางโรงเรียนได้ไล่ รปภ. ออกแล้ว และตำรวจได้นำตัว รปภ. มาสอบสวนให้การรับสารภาพ ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

ล่าสุดวันนี้ได้เชิญ ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อดีตรองเลขาธิการ กพฐ.) นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ และ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว มาร่วมประชุมกันที่มูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้การช่วยเหลือ ซึ่งมีแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายร่วมประชุมด้วย

สืบเนื่องจากเด็กต้องการจะย้ายโรงเรียน ทั้งนี้จะมีการบูรณาการช่วยเหลือและหามาตรการในการป้องกันเหตุร้ายในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือเด็กหญิง ม.2 คนนี้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งเรื่องการฟื้นฟูสภาพจิตใจ การย้ายสถานศึกษา และติดตามคดีร่วมกับ พ.ต.อ.นิรุชพล เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อไป

นางเอ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 68 ช่วงประมาณ 08.00 น. โรงเรียนปิดเทอมแล้ว แต่ลูกให้แม่ไปส่งที่โรงเรียนเพื่อจะไปพบครูขอแก้เกรด จากนั้นแม่ก็กลับ เมื่อไปถึงที่ป้อมยามหน้าโรงเรียน ลูกโทรหาครู แต่ครูไม่ได้มาโรงเรียน ลูกจึงเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันให้ไปรับกลับบ้าน ระหว่างที่รอรถ รปภ. เรียกให้ลูกเข้าไปนั่งในป้อมก่อน ลูกจึงเดินเข้าไปขอเข้าห้องน้ำ หลังเดินออกจากห้องน้ำ รปภ.คนดังกล่าวได้เดินเข้ามากอดข้างหลัง แล้วล็อกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ พร้อมกับจับหน้าอก จับอวัยวะเพศ และพยายามล้วงเข้าไปในเสื้อและกางเกงที่เป็นชุดพละ ซึ่งลูกก็ดิ้นรนขัดขืนต่อสู้จนหลุดออกมาได้ แล้วรีบหยิบกระเป๋าวิ่งหนีออกจากป้อมยาม โดย รปภ.ได้วิ่งไล่ตามมา แต่ลูกบอกว่าอย่านะ และด้านนอกป้อมยามมีกล้องวงจรปิด รปภ.จึงหยุดกลับเข้าไปในป้อม

หลังกลับบ้านมาลูกก็มีอาการเซื่องซึมไม่พูดจา ไม่กินข้าว จนเช้าวันที่ 28 ก.ย. 68 ลูกได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ยายฟัง จนพ่อกับแม่รู้เรื่องและได้โทรศัพท์ไปสอบถามครูประจำชั้น เพื่อให้ตรวจสอบเพราะเป็นวันอาทิตย์ และตั้งใจจะเดินทางไปที่โรงเรียนในวันจันทร์ แต่ลูกสาวเครียดมากที่ถูก รปภ. กระทำ และที่ผ่านมาก็ถูกเพื่อนบุลลี ซึ่งเพื่อนเอารูปลูกไปโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และเขียนข้อความให้เสียหาย บอกว่าลูกติดเชื้อ HIV และติดเชื้อหนองใน ทำให้ลูกสาวเครียดจัด

ต่อมาเช้าวันที่ 29 ก.ย. 68 ขณะที่อยู่ที่บ้าน ลูกเข้าไปในห้องน้ำแล้วกินน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไปเพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งตอนนั้นพ่อกับแม่ออกไปข้างนอกเตรียมจะเดินทางไปโรงเรียน เพื่อติดตามเรื่องที่ลูกถูก รปภ.กระทำกับครูประจำชั้น และ ผอ.โรงเรียน จู่ ๆ ยายโทรมาบอกแทบช็อก และยายกับเพื่อนบ้านก็เรียกรถพยาบาลมารับลูกสาวส่งโรงพยาบาล ต้องเข้ารักษาตัวในห้อง ICU ถึง 6 คืน กว่าจะพ้นขีดอันตราย ซึ่งแม่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูก และเอาเรื่อง รปภ.ที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด อีกทั้งอยากให้ทางโรงเรียนได้รับรู้ แก้ปัญหา ทั้งในการคัดเลือกบุคลากรมาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน แต่กลับมาก่อเหตุกับเด็กนักเรียนเสียเอง และหามาตรการไม่ให้เกิดเหตุกับเด็กคนอื่น ๆ อีก นอกจากนี้ขอให้ทางโรงเรียนตรวจสอบเรื่องการบุลลีกันระหว่างเด็กนักเรียน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ทำร้ายจิตใจเด็กมาก ที่ผ่านมาลูกได้บอกครูแต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือ แม่จึงขอให้มูลนิธิปวีณาช่วยเหลือดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง