พระธาตุโนนตาลล้ม ช่วงทำการบูรณะ แต่ไม่มีคนงาน ไร้เจ็บตาย รองเจ้าคณะอำเภอ พร้อม นายอำเภอท่าอุเทน นำชาวบ้านประกอบพิธีขอขมา เตรียมรื้อซากปรักหักพัง สำรวจหาสิ่งของมีค่า วัตถุโบราณ
.
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่วัดพระธาตุโนนตาล บ้านธาตุ ต.โนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พระครูอุดมกิจพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดคามสี รองเจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน พร้อมด้วย นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน นำผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ตัวแทนชาวบ้าน ในพื้นที่ ร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ถวายเครื่องบูชาขอขมา ต่อองค์พระธาตุโนตาล ที่ล้มลง ตามประเพณีความเชื่อ เพื่อบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา ผู้ปกปักษ์รักษา หลังพระธาตุโนนตาลล้มลง เพราะมีการก่อสร้างแบบก่ออิฐถือปูน ตามภูมิปัญญาชาวบ้านโบราณ ใช้อิฐมอญก่อผสานด้วยดินเหนียว ทำให้เสื่อมสภาพตามกาลเวลา เพราะมีอายุเก่าแก่ราว 123 ปี โครงสร้างจึงทรุดพังทลายลง โดยเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากร ที่ 9 อุบลราชธานี จะได้เร่งสำรวจหาสิ่งของมีค่า และวัตถุโบราณ ก่อนที่จะมีการรื้อซากปรักหักพัง เพื่อวางแนวทางก่อสร้างองค์ใหม่แทนองค์เดิม
เบื้องต้นจากการสำรวจ พบสิ่งของมีค่าสำคัญคือ ยอดฉัตรทองเหลือง 5 ชั้น เสียหายเล็กน้อย รวมถึง พระพุทธรูป ปางเชียงรุ้ง เป็นโลหะสำริด จำนวน 3 องค์ คาดว่าส่วนใหญ่ภายในจะบรรจุวัตถุมงคล โดยภาพรวมพบว่า เสียหายทั้งองค์ ไม่สามารถบูรณะได้ ทำได้เพียงสร้างองค์ใหม่ทดแทน ตามความเชื่อของชาวบ้าน เชื่อว่า เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์โบราณ ที่ก่อสร้างขึ้นในยุคสร้างบ้านแปงเมืองของชนเผ่าไทญ้อ ที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะมาขอพร ขอโชคขอลาภ รวมถึงขอพรแล้วประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังฝากเตือนสายมู ไม่เชื่อย่าลบหลู่ ไม่ควรนำเศษอิฐ ดินปูน หรือวัตถุมงคล ออกจากวัด เชื่อว่าจะมีอันเป็นไป และเกิดเหตุร้ายกับครอบครัว ตามประเพณีความเชื่อ มั่นใจไม่มีใครกล้าแตะต้อง
ด้าน นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน นครพนม เผยว่า วันนี้เป็นฤกษ์ดีทางคณะสงฆ์ ญาติโยม ตัวแทนชาวบ้าน ได้ร่วมกันถวายเครื่องสักการะบูชา ขันธ์ห้า ขันหมากเบ็ง ขอขมาต่อองค์พระธาตุโนนตาล ตามประเพณีความเชื่อ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จะได้ทำการกู้ซากปรักหักพังตามขั้นตอน ต่อไป ส่วนแนวทางบูรณะฟื้นฟู จะต้องมีการก่อสร้างองค์ใหม่แทนองค์เดิม พร้อมถอดแบบให้คล้ายองค์เดิมมากที่สุด เพราะโครงสร้างพังทั้งองค์ เนื่องจากเสื่อมสภาพตามการเวลา เป็นการก่อสร้างแบบโบราณไม่มีเหล็กหรือโครงสร้างรับน้ำหนัก สำหรับแนวทางก่อสร้างจะเป็น 2 ส่วนคือ การนำเศษอิฐ ดินที่พังทลายลงมาไปก่อเป็นสถูป ไว้ภายในวัด และมีการก่อสร้างพระธาตุโนนตาลองค์ใหม่ แทนองค์เดิมเชื่อมกับอุโบสถ ที่ได้รับความเสียหายแค่บางส่วน อย่างไรก็ตามทางอำเภอท่าอุเทน รวมถึงสำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี จะได้เร่งวางแนวทางก่อสร้างฟื้นฟู ให้สมบูรณ์ คล้ายองค์เดิมเร็วที่สุด เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวบ้าน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา ที่สำคัญของ นครพนม ต่อไปในอนาคต
