"โรม" ตามหา "อนุทิน" หายไปไหน ได้เวลาปราบบิ๊กบอสสแกมเมอร์

"โรม" ตามหา "อนุทิน" หายไปไหน ได้เวลาปราบบิ๊กบอสสแกมเมอร์

View icon 111
วันที่ 15 ต.ค. 2568 | 09.06 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"โรม" ตามหา "อนุทิน" หายไปไหน สหรัฐฯ เขย่ารังสแกมเมอร์ เกาหลีใต้เอาจริงส่งกำลังมาลุย นี่คือโอกาสที่ไทยจะจัดการกับบิ๊กบอสของแก๊งสแกมเมอร์

วันนี้ (15 ต.ค.68) นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตามหานายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย โดยระบุว่า สหรัฐฯ เขย่ารังสแกมเมอร์ เกาหลีใต้เอาจริงส่งกำลังมาลุย แต่ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับกัมพูชา กลับอยู่เฉยไม่ทำอะไร นี่คือโอกาสที่เราจะเป็นผู้นำจัดการระดับ Big Boss สแกมเมอร์ “ฝากใครช่วยตามหาคุณอนุทินด้วยครับ ว่าหายไปไหน”

โรม ระบุด้วยว่า ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาในสหรัฐฯ มีการเสนอร่างกฎหมายชื่อว่า “Dismantle Foreign Scam Syndicates Act” ฟังชื่ออาจจะไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วกฎหมายฉบับนี้สำคัญกับทั้งโลก ร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายให้รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อรื้อถอนและปิดศูนย์อาชญากรรมข้ามชาติ ที่อยู่เบื้องหลังออนไลน์สแกมเมอร์ ตั้งแต่เว็บลงทุนปลอม โรแมนซ์สแกม ไปจนถึงการค้ามนุษย์ที่แฝงตัวอยู่ในเครือข่ายเหล่านั้น ซึ่งในร่างนี้ก็ปรากฎชื่อของนาย เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์, นาย ยิม เลียก, นาย ฮุน โต รวมถึง Huione Group ที่ตนได้พูดถึงไปแล้วในสภาฯ อีกด้วย

ความเคลื่อนไหวในสหรัฐแบบนี้ คือสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าเครือข่ายอาชญากรของกลุ่มคนเหล่านี้มีอยู่จริง และเป็นที่จับตามองของนานาชาติ ทั้งนี้การอภิปรายตนก็ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของชาติ ไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น อาชญากรรมโดยแก๊งสแกมเมอร์ไม่ใช่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มันคืออาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีรากอยู่ในภูมิภาคอาเซียน ในประเทศเพื่อนบ้าน และที่แย่ที่สุด คือการที่ขบวนการเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในประเทศไทย

“ผมคิดว่าประเทศไทยของเราต้องไม่อยู่เฉย และปล่อยให้แผ่นดินเราอาจกลายเป็นทั้งทางผ่านและพื้นที่พักพิงของเครือข่ายสแกมเมอร์อย่างที่เป็นทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่นั้นวันนี้เงินเทาของแก๊งสแกมเมอร์กำลังจะยึดประเทศชาติของเราอยู่แล้ว โดยมีนักการเมือง ข้าราชการเป็นลูกหาบ คอยช่วยเหลือ คุ้มกัน และปิดปากใครก็ตามที่มาท้าทายตัวการใหญ่ของแก๊งสแก๊มเมอร์” 

ข้อความตอนหนึ่ง โรม ระบุด้วยว่า รัฐบาลไทยควรทำแบบเดียวกับสหรัฐฯ ตั้ง “คณะทำงานถาวร” ที่รวมหน่วยงานต่าง ๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้จริงไม่ใช่โยนความรับผิดชอบกันไปมา เหมือนที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ การเพิกเฉยต่อเรื่องนี้และไม่ลงมือปราบปรามอย่างจริงจังก็ไม่ต่างอะไรกับการให้การสนับสนุน เครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์และ Call Center ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้

“ตำรวจบางคนของไซเบอร์ออกมาท้าทายผมผ่านสื่อ ก็ต้องเรียนว่าท่านไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทุกวันนี้ความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์มันมากมายมหาศาล ถ้าท่านทำหน้าที่ได้ดี ประเทศมันก็ไม่เป็นแบบนี้แล้ว แต่ถ้าท่านทำไม่ได้ ก็กรุณาช่วยลาออก หรือไม่ก็ขอย้ายไปอยู่ที่อื่น ให้คนมีศักยภาพ มีความสามารถมาทำ ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลของนายกอนุทิน จะต้องเลือกข้าง จะอยู่ข้างอาชญากรหรือจะอยู่ข้างประชาชน” รังสิมันต์ โรม ระบุทิ้งท้าย