รวบหนุ่มใหญ่เครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ

รวบหนุ่มใหญ่เครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ

View icon 340
วันที่ 15 ต.ค. 2568 | 11.31 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (15 ต.ค. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)
ร่วมกันจับกุม นายอภินพ อายุ 59 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 4392/2568 ลงวันที่ 29 ก.ค.68 และหมายจับของศาลอาญาที่ 5167/2568 ลงวันที่ 5 ก.ย.68 ในฐานความผิด

1. ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใดหน่วงเหนี่ยวกักชัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ถ้าการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ผู้นั้นกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์

2. ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่าง ๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในราชอาณาจักร หรือนอกราชอาณาจักร โดยเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี

3. ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น จัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี

4. ร่วมกันโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร

โดยสามารถจับกุมได้ที่ริมถนน ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก สืบเนื่องจากได้รับแจ้งความร้องทุกข์กรณีได้มีกลุ่มคนร้ายชักชวนและนำพาเด็กหญิง ร. (นามสมมุติ) ซึ่งขณะเกิดเหตุอายุเพียง 13 ปี 5 เดือน กับเพื่อน อายุ 14 ปี 11 เดือน ไปค้าประเวณีกับลูกค้าคนจีนที่ประเทศเมียนมา

โดยแจ้งว่า จะออกค่าเดินทางให้ก่อน แล้วค่อยหักเงินใช้คืนหลังจากไปทำงานแล้ว โดยให้ทำงานนั่งรอลูกค้าตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึงเวลา 03.00 น. เงินที่ได้จากการทำงานจะออกทุก 10 วัน หากทำผิดกฎของร้านก็จะถูกหักเงิน โดยกลุ่มคนร้ายที่อยู่ในไทยจะทำหน้าที่มารับเด็กหญิง ร. กับเพื่อนเพื่อพาไปพักที่บ้านใน อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะถูกพานั่งเรือข้ามฝั่งไปประเทศเมียนมา และจะถูกส่งไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านเป็นหญิงคนไทย ทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าชาวจีนที่จะมาซื้อบริการและรับเงินค่าซื้อบริการทางเพศของเด็ก

เมื่อเด็กหญิง ร. ประสงค์จะกลับบ้าน หญิงเจ้าของร้านได้อ้างว่า ทำงานไม่ครบแทค จึงไม่จ่ายเงินที่ทำงานได้ให้กับเด็กหญิง ร. และยังจะต้องจ่ายเงิน จำนวน 8,000 บาท เพื่อจะให้คนมารับพาไปส่งที่ฝั่งไทย แม่ของเด็กหญิง ร. จึงได้โอนเงินให้กับกลุ่มคนร้ายไป

ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า เงินดังกล่าวถูกโอนต่อไปยังบัญชีของหญิงเจ้าของร้าน และนายอภินพ ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. ได้ขออนุมัติหมายจับนายอภินพฯ ต่อศาลอาญาตามหมายจับทั้ง 2 หมายดังกล่าวข้างต้น

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคม. ทราบว่า นายอภินพ ผู้ต้องหา ได้หลบหนี มาพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์และพบนายอภินพ ขับรถออกมาจากหมู่บ้าน เมื่อติดตามไปพบผู้ต้องหาจอดรถริมถนน ใน อ.แม่สอด

โดยตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานพร้อมกับแสดงหมายจับให้นายอภินพ ดู เมื่อนายอภินพ ได้ดูและรับทราบตามหมายจับแล้ว จึงแจ้งให้ทราบว่าจะต้องถูกจับกุมในข้อหาดังกล่าวข้างต้น

พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้นายอภินพ ทราบ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับทั้ง 2 หมายจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับมาก่อน โดยในชั้นจับกุมให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา