สนามข่าว 7 สี - หลังกัมพูชา ไม่มีท่าทีปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ทั้งที่ไทยเคยส่งพิกัดให้หลายครั้ง นักวิชาการมองว่า มีคนในตระกูล ฮุน เซน เกี่ยวข้องสนับสนุนทุนจีนสีเทา
นายทรงฤทธิ์ โพนเงิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ยกตัวอย่างแก๊ง 14 K หลบหนีการจับกุมจากจีนมาตั้งแต่ปี 2013 เข้ามาตั้งเครือข่ายในกัมพูชา ในการหลอกลวง และขู่บังคับรีดไถเงินเหยื่อ มีหัวหน้าใหญ่ฝ่ายกัมพูชา นายฮุน โต หลาน ฮุน เซน เป็นบิ๊กของบริษัทคริปโทเคอร์เรนซี Huione Group, พลเอก ดี วิเชีย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ลูกเขย ฮุน เซน, พลตำรวจเอก เนต สะเวิน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลานเขย ฮุน เซน มี เฉิน จื้อ จีนเทาอยู่ในแก๊ง "14 K" ทำหน้าที่ฟอกเงินให้กับสแกมเมอร์ หลอกลวงคนมาลงทุน
จึงเป็นสาเหตุที่กัมพูชา ไม่เคลื่อนไหวปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกันมานาน ที่ผ่านมาตัวการใหญ่ก็ไม่เคยจับกุม
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มสแกมเมอร์ และแก๊งคอลเซนเตอร์ ของกัมพูชา ย้ายฐานปฏิบัติการไปอยู่ที่ชายแดนประเทศเวียดนาม นักวิชาการมองว่าเป็นผลมาจากมาตรการที่ไทยตัดไฟและอินเทอร์เน็ต
หลังจากนี้จึงอยากให้ไทยพัฒนาเครือข่ายระหว่างประเทศ ป้องกันไม่ให้มีเหยื่อรายใหม่ ช่วยคนที่ตกเป็นเหยื่อ และจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ
ส่วนปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ในกัมพูชา เชื่อว่านานาชาติรับทราบปัญหานี้ดี ไทยควรใช้โอกาสนี้ ผลัดดันให้นานาประเทศ ลงนามให้ความร่วมมือในการปราบปรามให้ได้
กรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ แฉความสัมพันธ์ระหว่าง นายเบน สมิธ กับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า และนักการเมืองไทยคนอื่น ๆ นายทรงฤทธิ์ มองว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้
ส่วนคำขู่ของ สมเด็จฯ ฮุน เซน ให้ไทยเปิดด่าน มิเช่นนั้นจะทำลายเว็บพนันของนักการเมืองไทย อยากให้เปิดข้อมูลออกมาเลย มองว่าเป็นเรื่องดีต่อประเทศไทย
สำหรับกระแสข่าวเรื่องที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเข้าร่วมประชุมอาเซียนซัมมิท เพื่อให้ไทยทำข้อตกลงสันติภาพกับกัมพูชา ในปี 2569 นายทรงฤทธิ์ เชื่อมั่นใน กระทรวงการต่างประเทศ จะช่วยดูแลให้ไทยไม่เสียผลประโยชน์
