หมอเผยข่าวดีลูกช้างข้าวต้มมีโอกาสเดินได้ กรมอุทยานฯ เชิญผู้เชี่ยวชาญหลายสถาบันร่วมวางแผนรักษา กายภาพบำบัด ล่าสุดเริ่มใส่เฝือกขาและใช้นั่งร้านช่วยพยุงตัว เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ฝึกการทรงตัว ขาที่งอ 85 องศา ยืดได้เป็น 125 องศา
ความคืบหน้าในการช่วยเหลือลูกช้าง วันนี้ (16 ต.ค.68) กัญจนา ศิลปอาชา สืบข้อมูลจากคุณหมอต้อม (ทวีโภค) ที่วานนี้ (15 ต.ค.68) มาช่วยดูการรักษาน้องข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลง โดยคุณหมอแจ้งว่า น้องข้าวต้มมีโอกาสเดินได้ ขาซึ่งเดิมงอ 85 องศา เมื่อเข้าสู่การรักษาทำกายภาพบำบัด หมั่นยืดขาบ่อยเข้า ขายืดได้เป็น 102 องศา และเมื่อมาเริ่มใส่เฝือกบ่อย ๆ ตอนนี้ขาของน้องข้าวต้ม ยืดมาเป็น 125 องศาแล้ว เพราะฉะนั้นต้องหมั่นยืด หมั่นใส่เฝือก
กัญจนา ศิลปอาชา ระบุด้วยว่า ในมิติด้านสุขภาพ การขับถ่าย มูลมีกลิ่นเปรี้ยว เกิดจากการหมักหมมในลำไส้ คุณหมอจะเพิ่มน้ำมันมะพร้าวลงในนม และจะให้กินยาปฏิชีวนะ 3 วัน ทุกวันนี้น้องข้าวต้มยังกินนมน้อยไป คือตกประมาณวันละ 4 ลิตร ต้องพยายามให้กินมากขึ้น ทั้งนี้ หมอต้อมบอกว่าการดูแลน้องข้าวต้ม ของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่บึงฉวากดีมาก อย่างไรก็ตาม การบำบัดน้องข้าวต้มต้องใช้เวลาเป็นปี ยังต้องดูแลกันอีกยาวนาน และต้องขอบคุณคุณหมอ และเจ้าหน้าที่ทั้งที่มาจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งที่อยู่ประจำบึงฉวาก
สำหรับลูกช้างข้าวต้ม ได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์หญิงณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ซึ่งดูแลลูกช้างป่าข้าวต้มร่วมกับทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานฯ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบันร่วมตรวจและปรับแนวทางการรักษา ประกอบด้วย ดร.น.สพ.ทวีโภค อังควานิช และ สพ.ญ.วรางคณา ลังการ์พินธุ์ จากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ผศ.ดร.ศิริพันธุ์ คงสวัสดิ์ จากคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผศ.ดร.สพ.ญ.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทีมสัตวแพทย์ได้ทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง ทั้งการยืดเหยียดข้อต่อ การใช้อัลตราซาวน์บำบัด และเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อแบบสนามแม่เหล็ก (PMS) ควบคู่กับการฝึกยืนในนั่งร้านและการพักขาเป็นช่วง ๆ โดยพบว่าลูกช้างสามารถพยุงตัวยืนได้ดีขึ้น
สำหรับบาดแผลภายนอก แผลบริเวณสะดือแห้งใกล้หายดี ส่วนแผลบริเวณอวัยวะเพศและเล็บมีอาการดีขึ้น หนองลดลง แผลถลอกรอบตัวเริ่มฟื้นฟูได้ดี โดยทีมสัตวแพทย์ยังคงทำแผลและตรวจติดตามทุกวัน รวมถึงเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจห้องปฏิบัติการและเอกซเรย์ประเมินภาวะภายใน
