ตามล็อกสมาชิกแก๊งแอปฯ เงินกู้ ดอกเบี้ยแรงกว่าไฟร้อยละ 3,197.40 ต่อปี

ตามล็อกสมาชิกแก๊งแอปฯ เงินกู้ ดอกเบี้ยแรงกว่าไฟร้อยละ 3,197.40 ต่อปี

View icon 252
วันที่ 18 ต.ค. 2568 | 13.32 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (18 ต.ค. 68)  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.นฤมล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ 1127/2568 ลงวันที่ 5 ส.ค. 68

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”

โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่งภายในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 67 ได้มีผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการกู้ยืมเงินกับแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อน โดยในการกู้ยืมเงินจะมีการหักค่าดำเนินการ

อีกทั้งยังเป็นการกู้ยืมเงินที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดในลักษณะที่ผู้กู้ต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 7 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8.76 ต่อวัน หรือร้อยละ 262.80 ต่อเดือน หรือร้อยละ 3,197.40 ต่อปี ซึ่งหากชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดเวลาจะมีการทวงถามหนี้พร้อมด้วยการให้ชำระค่าปรับเป็นค่าขยายเวลาในการชำระหนี้เป็นจำนวนเงินครั้งละ 2,584 บาท  

จากผลการสืบสวนและการวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดในขบวนการดังกล่าว จำนวน 3 ราย ได้แก่ น.ส.สุนันทา (สงวนนามสกุล), นายณรงค์ยุทธ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.นฤมล (สงวนนามสกุล) ซึ่งต่างใช้บัญชีธนาคารของตนในการทำธุรกรรมทางการเงินกับผู้กู้

จากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับ พบว่ามีการใช้บัญชีธนาคารในลักษณะของบัญชีม้าในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยให้เจ้าของบัญชีเป็นผู้สแกนหน้ายืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมจากในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย

ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสามไม่มีการมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกและน่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงได้พิจารณาขออนุมัติหมายจับเพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

จากการสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบเบาะแสว่า น.ส.นฤมล หลบหนีกบดานอยู่ในเขตพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. จึงได้วางแผนปฏิบัติการโดยสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบเห็น น.ส.นฤมล ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับบริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งวางกำลังอยู่โดยรอบพื้นที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าทำการตรวจสอบ และจับกุมตัวพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่ง สภ.เมืองพิษณุโลก และนำตัวผู้ต้องหากลับมายังที่ทำการ กก.5 บก.ปอศ. ส่งพนักงานสอบสวนกก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป