เช้านี้ที่หมอชิต - ไทย - กัมพูชา ลงนาม "ถ้อยแถลงร่วม" เพื่อสันติภาพเรียบร้อย โดยมีประธานอาเซียน และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นสักขีพยาน
ถือเป็นภาพนาทีประวัติศาสตร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จับมือกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลังลงนาม "ถ้อยแถลงร่วม" เพื่อสันติภาพ นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย การลงนามครั้งประวัติศาสตร์นี้ มีผู้นำระดับโลกอย่าง อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
แต่ก่อนจะเห็นภาพประวัติศาสตร์ ได้ปรากฏภาพ นายกรัฐมนตรีสองประเทศ ไทย-กัมพูชา สลับที่นั่งกัน ทำให้ป้ายชื่อระบุประเทศไม่ตรง ซึ่ง นายกฯ อนุทิน แก้ปัญหาด้วยการนำป้ายสลับวางให้ตรงตำแหน่งที่นั่ง
ส่วนรายละเอียดข้อตกลงดีลสันติภาพ ทางกระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่เนื้อหาในถ้อยแถลงที่มีการลงนาม เกี่ยวข้องกับเหตุปะทะที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เช่น การถอนกำลังและอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน การเก็บกู้วัตถุระเบิด แนวทางบริหารพื้นที่ทับซ้อน และการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์
หลังการลงนามดังกล่าว นายอนุทิน เดินทางกลับถึงประเทศไทย พร้อมเปิดเผยว่า การร่วมลงนามครั้งนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาแบบสองต่อสอง แต่หลังจากนี้คิดว่าจะต้องพูดคุยกันมากขึ้น เพราะแต่ละประเทศต้องพยายามทำให้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อยู่ในถ้อยแถลง เพื่อนำไปสู่การยกระดับของสถานการณ์ให้เกิดความเป็นสันติภาพให้เร็วที่สุด โดยเชื่อว่าไม่มีใครกล้าไม่ปฏิบัติตาม เพราะการลงนามมีสักขีพยาน ทั้งนายกฯ มาเลเซีย และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
นายกฯ อนุทิน ยังเปิดเผยว่า ได้หารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ขอการสนับสนุนเรื่องการค้าและภาษี และเชิญให้มาเยือนประเทศไทย เพราะประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไม่ได้เยือนมาประมาณ 10 ปีแล้ว ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตอบในหลักการ