ตำรวจตามรวบอีก 1 ชายชาวอิหร่านแก๊งตำรวจเก๊ ร่วมกับพวกรวม 3 คน วิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวจีน พร้อมตามเงินคืนให้ผู้เสียหายจนครบ เร่งล่าคนร้ายอีก 1 เป็นชาวเอเชีย ยังหลบหนี โดยก่อนหน้าจับชายชาวแอฟริกาใต้
วันนี้ (28 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สน. ห้วยขวาง จับกุม นาย Arefhossein Ghiasi สัญชาติอิหร่าน อายุ 54 ปี ที่ร่วมกับพวกอีก 2 คน อ้างเป็นตำรวจก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีน ย่านห้วยขวาง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 1 คน คือ นาย Hanekom Matthew สัญชาติแอฟริกาใต้ อายุ 42 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋ง สีขาว ทะเบียน 4ขว 9448 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ก่อเหตุ โดยผู้ต้องหามีทั้งหมด 3 คนด้วยกัน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา มีคนร้าย 3 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีน 3 คน ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 11,000 ดอลลาร์ฮ่องกง เหตุเกิดบริเวณใต้สะพานลอย หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. หลังเกิดเหตุไม่นานตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นาย Hanekom Matthew สัญชาติแอฟริกาใต้ อายุ 42 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋งที่ใช้ก่อเหตุ แต่ให้การภาคเสธ โดยชุดสืบสวนได้ขยายผลไปยังเต็นท์รถแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ที่คนร้ายไปเช่ารถมาก่อเหตุ จนทราบชื่อผู้เช่ารถทั้งหมด จากนั้นเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา ตำรวจได้ไปจับกุม นาย Arefhossein Ghiasi สัญชาติอิหร่าน อายุ 54 ปี ได้ที่ จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก. สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาได้เงินไป ก็นำเงินไปแลกที่ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราในย่านสุขุมวิท ซอย 3 ซึ่งตำรวจได้ติดตามนำเงินกลับมาคืนให้ผู้เสียหายได้ครบ จึงได้คืนเงินให้แก่ผู้เสียหายได้ครบทั้งหมด สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาจะออกตะเวนก่อเหตุในยามที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และก่อเหตุนักท่องเที่ยว มักก่อเหตุในย่านพระราม 9, ห้วยขวาง และสุขุมวิท เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.บางรัก เมื่อเดือน ส.ค. 67 และถูกจับกุมได้เช่นกัน
เบื้องต้นดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ, แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และ เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ โอเวอร์สเตย์ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งเป็นชายชาวเอเชีย พูดภาษาจีนไม่ชัด อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
ด้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองอยู่เมืองเซินเจิ้น ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดอีเวนต์และคอนเสิร์ต โดยปกติแล้วมาเที่ยวเมืองไทยเป็นประจำทุกเดือน เพราะชอบเมืองไทย ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยประสบเหตุมาก่อน แต่ก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาและนำคืนมาคืนให้ ซึ่งทำให้ยิ่งรู้สึกเชื่อมั่นในความปลอดภัย และจะมาเที่ยวเมืองไทยอีก โดยมีกำหนดเดินทางกลับประเทศจีนในวันที่ 29 ต.ค. 68 และจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกในวันที่ 6 พ.ย. 68 นี้