วันนี้ (28 ต.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สวญ.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. และ พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ปุณณรัตน์ มุสิกรักษ์ รอง สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล.,ร.ต.ท.พงศกร บุญรัตน์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล., ร.ต.ต.กิตติราษฎร์ เบ็ญหมีน ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
1. นายณัฐพล อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ 1
2. ผู้ต้องหาที่ 2-17 บุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 17 คน
ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวเหล่านั้น เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64”
ผู้ต้องหาที่ 2-17 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน จำนวน 1 คัน และกุญแจรถ จำนวน 1 ดอก
2. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ภายในบรรจุซิมการ์ด จำนวน 2 ซิม
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ เพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรมบนท้องถนนในช่วงเวลากลางคืน ได้รับแจ้งข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ในช่วงเวลากลางคืนจะมีกลุ่มขบวนการลับลอบขนแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่ โซนภาคกลาง เพื่อนำมาส่งให้กับนายหน้าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อผ่านแดนไปยังประเทศมาเลเซีย
โดยขณะออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ บนถนนทางหลวง หมายเลข 4 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ซึ่งมีลักษณะพิรุธต้องสงสัย เนื่องจากสังเกตจากตัวรถนั้นมีลักษณะน้ำหนักมากเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง แล้วได้เรียกรถให้หยุด เพื่อขอทำการตรวจสอบ พบนายณัฐพล แสดงตัวเป็นคนขับรถ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบภายในรถ พบบุคคลทั้งชายหญิงรวม 16 คน นั่งอัดกันมาเต็มคันรถ
พบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้งหมด และไม่มีหนังสือเดินทางมาแสดงทั้ง 16 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป