จากกรณีที่วานนี้ (30 ต.ค. 68) "กัน จอมพลัง” ได้ออกมาชี้แจงคณะกรรมาธิการการทหาร ผ่าน Video Conference ยืนยัน มีเอกสารขอรับการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ จากหน่วยในพื้นที่ เชื่อ ทหารมีงบประมาณ แต่ขั้นตอนล่าช้า ไม่ทันใจหน้าหน่วย ขณะที่ คณะกรรมาธิการการทหาร ขอเอกสาร เพื่อใช้ตรวจสอบงบทหาร คาใจ กองทัพขอรับบริจาค ยุทธภัณฑ์ทำสงคราม
โดยต่อมา "กัน จอมพลัง" ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดหลักฐานหน่วยราชการขอรับการสนับสนุนแผ่นเกราะแข็ง ป้องกันกระสุน ระดับ 4 พร้อมระบุ เวลานี้ ทหารตำรวจ รบเสร็จแล้ว สิ่งที่พวกเขาควรได้ คือ ดอกไม้ไม่ใช่ก้อนหิน
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กัน จอมพลัง แจง กมธ.การทหาร ยืนยัน มีเอกสารขอรับการสนับสนุนยุทโธปกรณ์)
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โฆษก ทบ. ย้ำ เสื้อเกราะ ไม่เคยขาดแคลน มีเพียงหน่วยในพื้นที่ติดต่อขออนุเคราะห์ จากมูลนิธิโดยตรง ขอเวลารวบรวมเอกสาร)
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กัน จอมพลัง เปิดหลักฐานหน่วยราชการขอแผ่นเกราะแข็ง)
ล่าสุด "ไอซ์" รักชนก ศรีนอก สส. กรุงเทพฯ พรรคประชาชน ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊ก รักชนก ศรีนอก - Rukchanok Srinork ระบุว่า อ่านจบค่อยด่ายังทันฮะ อยากให้คุณกัน ส่งเอกสารฉบับจริงให้กับกรรมาธิการทหาร
1.เป็นเรื่องสำคัญที่ กมธ.ทหาร ต้องรู้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ว่ากองทัพขออะไรกับมูลนิธิกันจอมพลังไปบ้าง เพราะต้องเอามาเทียบว่าบางรายการตั้งงบประมาณเอาไว้แล้วหรือไม่ ถ้าตั้งงบไว้แล้ว ยังมาขอมูลนิธิซ้ำ แล้วเงินงบประมาณไปไหน? ถ้าหากเป็นด้วยกระบวนการราชการที่ล่าช้า เราต้องมาแก้ระเบียบแก้กฏหมายกัน เพื่อให้ในภายภาคหน้ากองทัพสามารถเดินหน้ารับมือกับภัยคุกคามได้รวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพมากกว่านี้ จะได้ไม่มีแนวหน้าส่วนไหนที่ขาดแคลนของอีกแม้แต่หน่วยเดียว ไม่ต้องแก้ทีละเคส แต่แก้ทั้งระบบ
2.ที่ผ่านมาคุณกันเปิดเผยแค่รูปสเตทเม้นซึ่งยังไม่มีใครได้ดูไส้ในเลยสักบรรทัด แต่ที่ยังไม่เคยเปิดเผยหรือพูดอย่างตรงไปตรงมาเลย คือ “รายการของที่ซื้อทั้งหมด” เงินที่บอกว่าใช้ไปแล้ว 200กว่าล้าน ซื้ออะไร ราคาเท่าไหร่ ซื้อกี่ชิ้น ถนนทำกี่เส้น กี่บาท รายจ่ายตรงกับรายรับไหม? จะได้ไม่ถูกครหาว่าตามรอยทิดแย้มและอลงกตอีก เกราะคุ้มกันที่ปกป้องคนดีได้ดีที่สุดคือความจริง
3.เราได้ขอให้กองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งใบขอความอนุเคราะห์ของทุกมูลนิธิกลับมาให้เช่นเดียวกัน เพราะโฆษกกองทัพบอกว่าไม่ได้เตรียมมาชี้แจง
4.ถ้าเราตั้งสติคุยกัน โดยไม่เอาเรื่องการทำความดีมาเป็นเกราะกำบังเพื่อเบี่ยงประเด็นไม่ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา เราจะเห็นว่าเรื่องนี้มัน “มีช่องว่าง มีส่วนต่าง” ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกัน นั่นหมายถึงมันมีช่องว่างและส่วนต่าง ทั้งในเงินงบประมาณ 200,000 ล้าน และ เงินที่ขอเรี่ยรายรับบริจาค
5.ทุกคนเอาทหารชั้นผู้น้อยมาเป็นเกราะกำบัง แต่พอถามว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรเพื่อให้เงินหรือการสนับสนุนไปถึงทหารชั้นผู้น้อยได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจริง ไม่มีใครสนใจ ทุกคนชอบช่วยทีละเคส มีเคสก็มีคอนเทนต์ แต่พอถามว่าจะแก้กันที่ต้นตอของปัญหายังไงให้ทหารชั้นผู้น้อยมีชีวิตที่ดี ให้งบประมาณไปถึงพวกเขา วงแตก ถามวัวตอบควาย
ทุกวันนี้เงินเดือนทหาร หมื่นกว่าบาท แต่เข้าบัญชีจริง ๆ 4,000 เงินหายไปไหนไม่มีใครอยากรู้ มีแค่พรรคประชาชนที่ตามล่าหาความจริง ในขณะที่กองทัพทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และอีกหลายคนแค่อยากแจกของและถ่ายรูปกับทหารชั้นผู้น้อย งบประมาณสองแสนล้านหายไปไหน ถูกใช้ไปอย่างไรคุ้มค่าหรือไม่ ไม่มีใครสนใจเพราะแค่ได้บริจาคก็สบายใจแล้ว
เราไม่ควรทนอยู่กันไปแบบนี้ ถ้าคุณกันเลือกข้างทหารชั้นผู้น้อยจริง ๆ อยากขอให้ร่วมมือกับพวกเรา ช่วยเปลี่ยนแปลงระบบ เพื่อไม่ให้มีใคร หมกเม็ดเงินกองทัพเงินบริจาคได้อีก
6. “เวลานี้ ทหาร ตำรวจ รบเสร็จแล้ว สิ่งที่พวกเขาควรได้คือ ดอกไม้ไม่ใช่ก้อนหิน” พวกเราเห็นด้วย โดยเฉพาะทหารชั้นผู้น้อยที่ต้องนอนกลางดินกินกลางทราย เสียสละกระทั่งชีวิตควรได้รับคำสรรเสริญและการสนับสนุน แต่ทหารชั้นผู้ใหญ่ในห้องแอร์ที่แม้แต่ในเวลาสงครามก็ยังจะคิดจะหาประโยชน์ หาส่วนต่าง แบบนี้ควรได้ดอกไม้หรือก้อนหิน? แล้วเราจะปล่อยไว้แบบนี้หรือ? เราต้องถอดบทเรียนเพื่อนำไปปฏิรูปกองทัพ แก้ไขจุดบกพร่องเพื่อให้กองทัพเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้เงิน 200,000 ล้าน มันถูกใช้ไปเพื่อดูแลชีวิตทหารชั้นผู้น้อยจริง ๆ