วันนี้ (2 พ.ย.68) กัญจนา ศิลปอาชา อัปเดตการรักษาและอาการของ ข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลง ขาหน้าโค้งงอตั้งแต่กำเนิด โดยทีมสัตวแพทย์ ประกอบด้วย สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก สพ.ญ.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) น.สพ. วิศรุต ปิยะศิริศิลป์ นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า แจ้งว่า หลังจากได้สเต็มเซลล์ไปเมื่อวานซืน..น้องมีแรงเยอะขึ้นมาก จะลุกยืนอย่างเดียว จนเข็มที่เจาะไว้ให้สารน้ำหลุดอยู่ตลอดเวลาส่วนยาปฏิชีวนะให้ไปเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.68) เบื้องต้นน้องข้าวต้ม ดูดีขึ้น แต่ต้องรอผลชัดเจน 3 วัน
สำหรับรายละเอียดการรักษา ลูกช้างป่า (ข้าวต้ม) วันที่ 1 พ.ย. 68 และวันที่ 2 พ.ย. จนถึงเวลา 10.00 น. มีรายละเอียดดังนี้
ลูกช้างป่าข้าวต้มกินนม กินน้ำข้าวต้ม แต่ยังคงกินได้ประมาณน้อยกว่าปริมาณที่สัตวแพทย์คำนวนปริมาณไว้ ปัสสาวะมีสีใส อุจจาระเหลวสีเหลือง
สัตวแพทย์ ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ตลอดทั้งวัน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และพยุงระดับน้ำตาลในเลือด ทำการให้ยาปฏิชีวนะทำการให้โปรตีนเสริม (กรดอะมิโนที่จำเป็น) และ ทำการให้วิตามินรวม
ลูกช้างป่า มีพละกำลังมากขึ้นกว่าเดิม
แผลในช่องปากดีขึ้น แผลบริเวณสะดือแห้งดี แผลอวัยวะเพศแห้งดี แผลถลอกรอบฟื้นตัวดี ทำการรักษาแผลต่อเนื่อง
ทำการรักษาแผลกดทับ บริเวณสะโพกทั้ง 2 ข้าง ทำการเลเซอร์รักษาลดการอักเสบ การบวมของแผล
ทำการนวดและยืดเหยียดขา รวมถึงการใช้เครื่องอัลตร้าซาวน์รักษา เพื่อเป็นการกายภาพ แต่ทั้งนี้ทีมสัตวแพทย์ต้องประเมินอาการของน้องข้าวต้มทุกครั้งก่อนการทำกายภาพ ถ้าสภาวะร่างกายปกติถึงจะทำการกายภาพ
