กู้ภัย 2 มูลนิธิฯ ยิงกัน ปมแย่งผู้ป่วยหวังหัวคิว เคยได้ยินแต่ไม่ยืนยัน

กู้ภัย 2 มูลนิธิฯ ยิงกัน ปมแย่งผู้ป่วยหวังหัวคิว เคยได้ยินแต่ไม่ยืนยัน

View icon 186
วันที่ 6 พ.ย. 2568 | 15.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เพื่อนอาสาฯ ยังไม่มทราบชนวนเหตุ กู้ภัย 2 มูลนิธิฯ ยิงกัน  ปมแย่งผู้ป่วยหวังหัวคิวแค่เคยได้ยินไม่ยืนยัน ชาวบ้านแปลกใจปกติใครมาถึงก่อนก็ได้ช่วยคนเจ็บ ทำงานเพื่อสังคม ไม่ควรทะเลาะแย่งกัน

ความคืบหน้ากรณีอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิ ร่วมกตัญญู และมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ ทะเลาะวิวาทกันแล้วใช้อาวุธปืนยิงมีผู้บาดเจ็บ 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิลูกกตัญญูสองคน และมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ 1 คน เหตุเกิดวันนี้ (6 พ.ย.68) เวลาประมาณ 01.00 น. บริเวณปากซอยลาดพร้าว 122 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง บันทึกเสียงช่วงเกิดเหตุ ในเวลา 01:03 น. ที่มีเสียงคนพูดจาโต้เถียงกัน จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด ส่วนในที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยคราบเลือดของผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ริมถนน

ช่างร้านทำเบาะรถจักรยานยนต์ ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ปกติซอยลาดพร้าว 122 หรือ ซอยมหาดไทย จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นเส้นทางชุดที่ออกเส้นทางหลักได้หลายเส้นทาง ที่ผ่านมา เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะมีอาสาสมัครกู้ภัยทั้ง 2 มูลนิธิ ฯ มาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่เคยเห็นการทะเลาะเบาะแว้งหรือใช้ความรุนแรงกัน ใครมาถึงที่เกิดเหตุก่อน ก็ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน

โดยส่วนตัวในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่ง เห็นว่าการมาทำจิตอาสาช่วยเหลือประชาชน ควรทำเพื่อสังคมอย่างแท้จริง ไม่ควรมาทะเลาะกันเพราะแย่งผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นนี้

ตัวแทนมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) เปิดเผยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการแย่งผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาล และไม่ได้เป็นการวิ่งข้ามเขตไปแย่งผู้ป่วยด้วย โดยก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ที่ปากซอยลาดพร้าว 122 ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) ซึ่งจอดรถสแตนด์บายอยู่บริเวณซอยลาดพร้าว 128/1 จึงรีบไปช่วยเหลือยังจุดเกิดเหตุ โดยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่อาการบาดเจ็บหนักกว่าก่อน จากนั้นกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูก็ตามมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอีกราย โดยผู้บาดเจ็บทั้งสองได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลลาดพร้าวในเวลาต่อมา ซึ่งระหว่างการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน ต่างคนต่างช่วยผู้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น พวกตนก็ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร และใครเป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งที่นำผู้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลไปแล้ว ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยยืนยันว่าถ้าฝ่ายใดเป็นคนผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี หากเป็นอาสาฯ ของมูลนิธิจะไม่ให้ปฎิบัติหน้าที่ต่อไปน่นอน

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าในวงการกู้ภัยที่มักเกิดปัญหาความขัดแย้งกันมาจากการแย่งผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาล เพื่อขอรับค่าหัวคิวนั้น ก็พอจะเคยได้ยินมา แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ก็ยืนยันว่าที่มาทำงานกู้ภัย ก็เพราะมีความเป็นจิตอาสาอยากช่วยเหลือสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง