ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลายคนจับตาหลักฐานเด็ดของ นายอัจฉริยะ ที่บอกว่าเป็นหมัดเด็ดเอาผิดตำรวจ และนักการเมือง คดีสแกมเมอร์ คืออะไร
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเว็บไซต์การพนันบนโทรศัพท์ไม่ต่ำกว่า 6 เว็บฯ ที่ยังเปิดให้เล่นการพนันมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน โดยอ้างว่าเว็บฯ เหล่านี้เคยถูกตำรวจ PCT 4 และ บช.สอท. ดำเนินคดีแล้ว แต่ยังปล่อยไว้จนถึงปัจจุบัน และมีรายชื่อตำรวจหลายนายเข้าไปพัวพันรับผลประโยชน์
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงเรื่องการโยกย้ายนายพลตำรวจอย่างไม่เป็นธรรม โดยย้ายตำรวจบางนาย ไปดูแลเครือข่ายเว็บการพนัน และสแกมเมอร์ ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
ส่วนความสัมพันธ์กับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่ารู้จักกัน แต่เป้าหมายต่างกัน ย้ำว่าเป้าหมายของตนเองคือเร่งรัดตำรวจปราบปรามเครือข่ายเว็บการพนัน และเครือข่ายคอลเซนเตอร์ แต่ที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมเพราะเห็น พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ถูกดำเนินคดีเพียงกลุ่มเดียว
ด้าน พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ และประธานอนุกรรมาธิการประชาสัมพันธ์ปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ยืนยันในรายการศจีตีคดีว่า ที่ผ่านมาตำรวจเดินหน้าปราบปราบสเมอร์มาอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่หมดสิ้น ได้แค่ระดับบัญชีม้าและผู้ร่วมขบวนการ เพราะตัวการใหญ่และฐานปฏิบัติการหลักอยู่ในต่างแดน การเข้าไปบุกกวาดล้างไม่ง่าย เพราะการบังคับใช้กฎหมายต่างแดนไม่เอื้อ อย่างกัมพูชาที่ผ่านมาเราก็ประสานงานมาโดยตลอดแต่อาจไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร เพราะเขามีผลประโยชน์ในธุรกิจนี้
ส่วนกรณีเว็บพนันออนไลน์ที่กลุ่มคนออกมาแฉ ด้อยค่า อ้างว่า มีหลักฐาน ตำรวจ ข้าราชการ นักการเมืองพัวพัน ยืนยัน เป็นข้อมูลเดิมที่ตำรวจดำเนินคดีส่ง ป.ป.ช. ไปหมดแล้ว แยกออกเป็น 2 สำนวน ไม่ได้นิ่งเฉยตามที่สร้างกระแสในสังคม จนเกิดความเสียหายต่อองค์กรตำรวจ
ขอย้ำว่า ตำรวจนายใดเข้าไปเกี่ยวข้องและมีหลักฐานชัดเจน ก็ดำเนินคดีทุกคน ซึ่งจากข้อมูลช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีตำรวจถูกภาคทัณฑ์ไปแล้วกว่า 5,000 นาย และให้ไล่ออก ปลดออกจากราชการมากกว่า 990 นาย มีตั้งแต่ตำรวจระดับนักเรียนนายสิบ จนถึงพลตำรวจเอก ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ต้องยอมรับว่าทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนเลว