เตือน ! ปทุมธานี-นนทบุรี-กทม. เสี่ยงน้ำท่วม

View icon 400
วันที่ 10 พ.ย. 2568 | 06.32 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น และมีโอกาสเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ต่าง ๆ  

3 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นของเขื่อนเจ้าพระยา คือ ปทุมธานี นนทบุรี และ กรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยว่า จุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสาขา รวมถึงพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ หรือที่เรียกว่า "แนวฟันหลอ"

นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตปริมณฑลและกรุงเทพมหานคร ทำให้การระบายน้ำทำได้ยากขึ้น

GISTDA ได้จำแนกพื้นที่เสี่ยงให้ชัดเจน หากมีการระบายน้ำในปริมาณ 2,700-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณจังหวัดปทุมธานี พื้นที่เสี่ยงส่วนใหญ่กระจายตามแนว 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ อำเภอสามโคก ลงมาถึง อำเภอเมืองปทุมธานี

จังหวัดนนทบุรี มีพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำหลายจุด โดยเฉพาะ อำเภอปากเกร็ด และ บางกรวย ที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้น

กรุงเทพมหานคร พื้นที่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เช่น บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ และ ธนบุรี ซึ่งพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบดังกล่าวอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำแทบทั้งสิ้น

ขอให้ประชาชนในพื้นที่ริมแม่น้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงตามแผนการวิเคราะห์ของ GISTDA เตรียมพร้อมขนย้ายของขึ้นที่สูง

ด้าน กรมชลประทาน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำรัฐมนตรี 2 กระทรวง ไปติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างฝั่งตะวันออก และแนวทางบริหารจัดการน้ำ

เบื้องต้น กรมชลฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมติดตั้งเรือผลักดันน้ำ 10 จุด ประมาณ 58 ลำ บริเวณปากแม่น้ำและคลองสาขาสำคัญ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว ส่วนแผนการระบายน้ำจะปรับรายวันให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือ และประเทศเมียนมา ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง