สู้ขาดใจ เอาคืนกลับมา ปราสาทตาควาย

View icon 227
วันที่ 10 พ.ย. 2568 | 11.06 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - เห็นสภาพปราสาทตาควายตอนนี้ กลายเป็นฐานประจำการของทหารกัมพูชา โบราณสถานอายุนับร้อยปีที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ต้องตกไปอยู่ในมือของคนที่ไม่รู้คุณค่า หากเป็นเช่นนี้คนไทยขอทวงคืน

นี่เป็นสภาพ ปราสาทตาควาย หลังทหารกัมพูชายึดไป พวกเขาขึงผ้าสแลนล้อมรอบปราสาท นำกำลังพลเข้าไปประจำการ ทำเป็นฐานทัพชั่วคราว ทั้ง ๆ ที่สถานที่แห่งนี้ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ทำนุบำรุง ให้เป็นมรดกลูกหลานสืบไป

คนไทยไม่ทน ขอทวงคืนปราสาทอันทรงคุณค่า โดยกลุ่ม "เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย" หรือ คปท. ขอเป็นแกนนำ ชวนคนไทยลงชื่อไปทวงคืนปราสาทตาควาย ซึ่ง คปท. มีกำหนดการเดินทางไปวันที่ 14-15 พฤศจิกายนนี้ ใครพร้อมให้ลงชื่อ เตรียมรองเท้าผ้าใบ แล้วไปด้วยกัน

ซึ่งหลายคนเข้าไปบอกว่าพร้อมลุย พร้อมไปเจอกันที่ปราสาทตาควาย ส่วนบางคนที่ไม่ได้ไปก็สมทบทุน และขอให้ทุกคนสู้สุดใจ ต่อการเดินทางไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ กดดันนำปราสาทของเราคืน

คุณบุ๋ม ปนัดดา เคยให้สัมภาษณ์ว่า การที่ไทยส่งคืนเชลยกัมพูชาทั้ง 18 คน ไม่มีผลต่อรอง ขอคืนปราสาทตาควายอยู่แล้ว เนื่องจากผู้นำไม่ได้สนใจ ไม่ได้เห็นความสำคัญของเชลยกลุ่มนี้ หากไทยจับตัวไว้ก็จะมีแต่เสียค่าใช้จ่าย ดังนั้น การส่งคืนเชลยกัมพูชาไป ไทยทำถูกแล้ว และรัฐบาลต้องหาวิธีเจรจาอื่นเพื่อขอคืน แลกเปลี่ยนปราสาทตาควายคืนมา และถ้าหากเจรจากันไม่เป็นผลก็คงต้องใช้วิธีการทางทหาร

และล่าสุด ทหารไทย 2 นาย เหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บ บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง ที่ได้ส่งตัวด้วยอากาศยานไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ คือ จ.ส.อ. เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ อาการข้อเท้าขวาขาด และ พลทหาร วชิระ พันธนา อาการแน่นหน้าอกจากแรงอัด ซึ่งการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็น 1 ในข้อตกลงไทยและกัมพูชา ก่อนที่จะทำการสำรวจและปักหมุดเขตแดนชั่วคราว