ที่ห้องประชุม ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินโครงการฯ เพื่อสร้างการเข้าถึงบริการสุขภาพของผู้ต้องขังอย่างเท่าเทียม ตามหลักมนุษยธรรม เมื่อพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ โดยรับเด็กและเยาวชนจากศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา, สุรินทร์, บุรีรัมย์ และชัยภูมิ ปัจจุบัน มี 148 คน บุคลากรทางการแพทย์ 6 คน
ในการนี้ องคมนตรี เปิดอบรมหลักสูตรอาสาสมัครสาธารณสุขพินิจ (อสพน.) และโครงการฝึกวิชาชีพระยะสั้น ซึ่งกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จัดขึ้น เพื่อพัฒนาสุขภาพกาย-ใจของเด็กและเยาวชน และทักษะอาชีพ โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ การสื่อสาร และให้คำปรึกษา ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข, ส่วนหลักสูตรการติดตั้งและบำรุงรักษาเซลล์แสงอาทิตย์ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนนครราชสีมา ร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดการอบรม พร้อมประสานสถานประกอบการรองรับหลังจบหลักสูตร ทั้งนี้ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหลักสูตร อสพน. ให้แก่ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เพื่อมอบต่อแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการพัฒนาเยาวชนในสถานควบคุมต่อไป
จากนั้น ชมสาธิตการดูแลสุขภาพของเด็กและเยาวชน และตรวจเยี่ยมห้องพยาบาล ซึ่งมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาล และเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ หรือ AED มียาและเวชภัณฑ์เพียงพอ ตามมาตรฐานห้องพยาบาลโรงเรียน, มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับวัตถุดิบ และคุณภาพวัตถุดิบในการประกอบอาหาร กำหนดรายการอาหารตามแนวทางของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วม ผู้ประกอบอาหาร 4 คน ผ่านการอบรมหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหาร และตรวจสุขภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ปีละ 1 ครั้ง
โรงฝึกอาชีพช่างเชื่อม ส่งเสริมการศึกษาสายอาชีพ โดยเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนครูผู้สอนของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองนครราชสีมา วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง มีเด็กและเยาวชนลงทะเบียน 25 คน
ส่วนบ้านกึ่งวิถี ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนนครราชสีมา โดยใช้หน่วยฝึกอบรมหญิงของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีการจัดทำคำสั่งผู้รับผิดชอบเป็นลายลักษณ์อักษร มีเด็กและเยาวชนพักอาศัยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 ปัจจุบัน มี 2 คน
โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โรงพยาบาลแม่ข่าย แก่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนนครราชสีมา โดยปีนี้ มีการให้บริการรักษาโรคทางกาย 30 รายต่อเดือน, โรคทางจิตเวช 19 รายต่อ เดือน, ทางทันตกรรม 5 รายต่อเดือน, ทางจิตเวช, ทางทันตกรรม และมีการตรวจรักษาทางทันตกรรมโดยการออกหน่วยเคลื่อนที่, สนับสนุนวัคซีน ยา และเวชภัณฑ์ ที่จำเป็น, การตรวจรักษาด้วยระบบ Tele Psychiatry การให้คำปรึกษาและรักษาทางจิตเวชจากระยะไกล เพื่อให้เข้าถึงบริการสุขภาพจิตได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องเดินทางมาไปโรงพยาบาล มีระบบประสานข้อมูล และช่องทาง Fast track เพื่อให้เป็นไปตามสิทธิมนุษยชน และตามมาตรฐานสากล
จากนั้น เดินทางไปยังเรือนจำกลางนครราชสีมา ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษไม่เกิน 30 ปี ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังชาย-หญิง 3,149 คน มีโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย
ในสถานพยาบาลฯ โดยมีพยาบาลวิชาชีพ 5 คน นักจิตวิทยา 3 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือ อสรจ. 187 คน โดยมีแพทย์เข้าไปตรวจรักษาโรคทั่วไป, ตรวจรักษาโรคติดต่อไม่เรื้อรัง, ทันตกรรม และจิตเวช และให้บริการ Telemedicine ในหลายสาขา ผู้ต้องขังได้รับสิทธิหลักประกันสุขภาพทุกคน
มีการขึ้นทะเบียนคนพิการ ทะเบียนผู้สูงอายุ และทะเบียนเด็กติดผู้ต้องขัง ปัจจุบัน มีเด็กติดมารดา 4 คน มีการจัดเวรยามดูแลทั้งกลางวันและกลางคืน
ช่วงบ่าย เดินทางไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำกลางนครราชสีมา พัฒนาระบบบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ต้องขัง เพื่อให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม มีการออกตรวจรักษา และให้บริการผ่านระบบ Telemedicine สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังและโรคทั่วไป มีการตรวจคัดกรองวัณโรคด้วยรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ และระบบประมวลผลด้วย AI ตลอดจนเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคภายในเรือนจำ
นอกจากนี้ ยังอบรมเจ้าหน้าที่ และ อสรจ. เพื่อเสริมศักยภาพในการดูแลผู้ต้องขังอย่างถูกต้องและมีมาตรฐาน มี "ห้องราชทัณฑ์ปันสุข" สำหรับผู้ต้องขังป่วย เพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ และด้านความปลอดภัย ปัจจุบัน ไม่มีผู้ต้องขังเข้าพักรักษา
เรือนจำกลางคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษไม่เกิน 15 ปี ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังชาย 4,479 คน สถานพยาบาลเรือนจำฯ โดยมีพยาบาลวิชาชีพ 7 คน, นักจิตวิทยา 2 คน, และ อสรจ. 302 คน มีโรงพยาบาลปากช่องนานา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายและภาคีเครือข่าย เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับบริการด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง ครอบคลุมในทุกด้าน รวมถึง มีการตรวจรักษาผ่านระบบ Telemedicine และ Telepsychiatry เดือนละ 2 ครั้ง ผู้ป่วยจิตเวชฉุกเฉิน สามารถส่งปรึกษาแพทย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
มีผู้ต้องขังที่มีปัญหาสุขภาพจิต และได้รับการวินิจฉัย 205 คน ได้รับการดูแลต่อเนื่อง มีบริการ ให้คำปรึกษารายบุคคล รายกลุ่ม และกลุ่มบำบัด เช่น ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด กลุ่มจิตบำบัดแบบประคับประคอง ก่อนพ้นโทษ มีการประสานส่งตัวรักษาต่อให้โรงพยาบาลใกล้ภูมิลำเนา
สำหรับทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา อำเภอสีคิ้ว ควบคุมผู้ต้องขังหญิงทุกคดีและทุกฐานความผิด กำหนดโทษถึงประหารชีวิต และรับย้ายระบายผู้ต้องขังหญิงในทุกพื้นที่ และผู้ต้องขังหญิงที่มีพฤติการณ์ยากแก่การควบคุม ปัจจุบัน มีผู้ต้องขัง 2,248 คน
มีพยาบาลวิชาชีพ 5 คน, นักจิตวิทยา 2 คน, และนักสังคมสงเคราะห์ 2 คน มีโรงพยาบาลสีคิ้ว เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย มีการคัดกรองโรคสำคัญ ๆ รวมถึงมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ โดยได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกคน ปัจจุบัน ผู้ต้องขังป่วยจิตเวช 60 คน ได้รับการดูแลต่อเนื่อง ใช้ระบบ Tele-psychiatry ปรึกษาจิตแพทย์ทุกเดือน มีคลินิกคลายเครียด และกิจกรรมบำบัด มีศูนย์ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด "บ้านตะวันฉาย" ได้การรับรองมาตรฐานระดับชาติ จัดโปรแกรมบำบัด 12 วัน และแบบชุมชนบำบัด 4 เดือน และเข้าร่วมโครงการ To Be Number One โดยอยู่ในกลุ่มรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงิน ปีที่ 2 ประจำปี 2568
จากนั้น เดินทางไปยังทัณฑสถานอุตสาหกรรมเขาพริก อำเภอสีคิ้ว เป็นประธานเปิดและเยี่ยมชมอาคารทันตกรรม ประกอบด้วย ซึ่งมีห้องทันตกรรม 2 ห้อง ห้องจ่ายกลาง 1 ห้อง และห้องเอกซเรย์ 1 ห้อง และเยี่ยมชมกิจกรรมโรงเรียนเบาหวาน, ชุมชนบำบัดและอาชีวะบำบัด
ทัณฑสถานอุตสาหกรรมเขาพริก ควบคุมผู้ต้องขังเด็ดขาดชายทุกคดี เป็นเรือนจำรับย้ายระบาย กำหนดโทษ ไม่เกิน 15 ปี มีผู้ต้องขังชาย 4,093 คน
มีโรงพยาบาลปากช่องนานา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ในสถานพยาบาล มีพยาบาลวิชาชีพ 5 คน, นักจิตวิทยา 1 คน และ อสรจ. 203 คน ผู้ต้องขังลงทะเบียนสิทธิ ตามหลักประกันสุขภาพ ร้อยละ 99.93 มีแพทย์หมุนเวียนเข้าตรวจตามเกณฑ์ ได้รับบริการทันตกรรม จากโรงพยาบาลแม่ข่าย และหน่วยเคลื่อนที่เอกชน มีการคัดกรองสุขภาพจิต พบผู้ป่วยจิตเวช 41 คน ได้รับการรักษาครบทุกคน สามารถติดตามผู้พ้นโทษทุกคน โดยไม่พบการกระทำผิดซ้ำ