เปิดปฏิบัติการ “ทลายคอกม้า Car Scams” จับผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ทำหน้าที่หลอกเหยื่อซื้อขายรถยนต์ผ่าน Facebook พบเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท
กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เปิดปฏิบัติการ ทลายคอกม้า Car Scams ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย รวมจำนวน 6 หมายจับ โดยแต่ละคนมีหน้าที่ ดังนี้
1. นายญาณวุฒิฯ อายุ 37 ปี ทำหน้าที่ บัญชีม้า และรับผลประโยชน์จากการหลอกลวง ถูกจับกุม บ้านพักในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
2. น.ส.ธัญชนกฯ อายุ 34 ปี ทำหน้าที่ เป็นธุระจัดหาบัญชีม้า และรับผลประโยชน์จากการหลอกลวง ถูกจับกุม บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
3. น.ส.ภัทราภาฯ อายุ 37 ปี ทำหน้าที่ ม้ากดเงิน และแจกจ่ายผลประโยชน์ให้ผู้ร่วมขบวนการ ถูกจับกุม บริเวณคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
4. นายสิทธิวัฒน์ฯ อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ บัญชีม้า และรับผลประโยชน์จากการหลอกลวง ถูกจับกุม บริเวณหน้าสถานประกอบการรับจ้างถมดินแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันก่อเหตุฉ้อโกงประชาชนโดยใช้วิธีหลอกซื้อ – หลอกขายรถยนต์ผ่าน Facebook Market Place โดยเริ่มจากการค้นหาการประกาศขายรถของผู้เสียหายรายหนึ่ง แล้วนำข้อมูลรถและภาพไปโพสต์หลอกขายให้กับผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง จากนั้นแอดมินกลุ่มจะนัดให้ผู้ซื้อและผู้ขายตัวจริงมาเจอกันให้เห็นรถยนต์ที่จะทำการซื้อขายจริงๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นแอดมินจะหลอกให้ผู้ซื้อโอนเงินผ่าน “บัญชีม้า” โดยอ้างว่าเป็นบัญชีของบริษัทหรือแอดมินส่วนกลาง เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีแล้ว แอดมินจะรีบตัดการติดต่อทั้งสองฝ่ายทันที และรีบแจ้งทีมงานไปกดเงินออกจากตู้ ATM แล้วนำเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงประชาชน ฝากเข้าตู้ ATM ส่วนหนึ่ง และนำเงินที่เหลือส่งต่อให้หัวหน้าเครือข่ายผ่านไรเดอร์
พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายทั้งสองฝ่ายเข้าใจผิดและไปแจ้งความผู้เสียหายด้วยกันเอง เป็นลักษณะของ “การหลอกสองทาง” ที่มีการแบ่งหน้าที่เป็นระบบชัดเจน ตั้งแต่คนหาบัญชีม้า ผู้กดเงิน จนถึงผู้ควบคุมเครือข่าย พบเงินหมุนเวียนในขบวนการนี้กว่า 30 ล้านบาท จากการตรวจสอบเครือข่ายนี้ พบว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่แถบประเทศเพื่อนบ้านซึ่งใช้บริการเอาต์ซอร์ส ทีมจัดหาบัญชีม้า และม้ากดเงินสด ร่วมวางแผนในการกระทำความผิด ทำให้ยากต่อการจับกุมและดำเนินคดี ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามต่อไป เจ้าหน้าที่ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน ขอให้ระมัดระวังมิจฉาชีพในรูปแบบดังกล่าว ด้วย