หนุ่ม 18 ทาสยาบ้า ขโมยรถซิ่งหนีตำรวจ ชนแม่ลูก ดับ 1 สาหัส 1

หนุ่ม 18 ทาสยาบ้า ขโมยรถซิ่งหนีตำรวจ ชนแม่ลูก ดับ 1 สาหัส 1

View icon 1.5K
วันที่ 22 พ.ย. 2568 | 18.04 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
22 พ.ย. 68 เมื่อเวลา 09.45 น. ร.ต.อ.วิชิต คุณโคตร รองสารวัตร สอบสวน สภ.เดชอุดม ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะ ชนรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ บ้านแจ้งสว่าง ถนน เดชอุดม-บุณฑริก ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงได้ประสานหน่วยกู้ชีพและสายตรวจจราจรเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ สีดำ เสียหลักชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ สีชมพู สภาพถูกชนด้านหลังได้รับความเสียหาย พบผู้บาดเจ็บ 2 คน คือนางกองศรี อายุ 59 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา และ น.ส.เสาวลักษณ์ อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ส่วนผู้ขับขี่ทราบชื่อคือนายสุขเกษม อายุ 18 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ที่เกิดเหตุ 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะคันเกิดเหตุ ถูกคนร้ายขโมยออกไปจากร้านซ่อมแอร์รถยนต์ในพื้นที่ อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (21 พ.ย.) โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมคนร้ายไว้ได้ คือนายสุขเกษม อดีตลูกจ้างของร้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตามไปยังบ้านพักของนายสุขเกษม แต่ไม่พบ ซึ่งชุดสืบสวน สภ.ห้วยข่า จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่ค้นหาตลอดทั้งคืน

จนกระทั่ง ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. ของวันนี้ (22 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ 191 พบนายสุขเกษม ขับรถกระบะคันที่ถูกโจรกรรมสวนไปทาง อ.เดชอุดม จึงได้กลับรถติดตาม แต่นายสุขเกษม กลับเร่งเครื่องหนีอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทิ้งห่างประมาณ 200 เมตร จากนั้น รถกระบะเกิดเสียหลัก ชนท้ายรถจักรยานยนต์ของนางกองศรีและลูก กระเด็นตกข้างทาง ลากรถจักรยานยนต์ไปประมาณ 50 เมตร ก่อนชนเสาไฟส่องสว่างข้างทางพลิกคว่ำเข้าไปในร้านจำหน่ายไม้ประดับและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย

โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายสุเกษม มาที่ สภ.เดชอุดม นายสุขเกษม ยังคงมีท่าทีตาขวางคล้ายคนเมายา ซึ่งจากการตรวจสอบปัสสาวะ พบว่าเป็นสีม่วง หรือเสพยาบ้า จึงนำตัวควบคุมไว้ในห้องขังเพื่อสงบสติอารมณ์

ต่อมานางละอองดาว อายุ 54 ปี แม่ของนายสุขเกษม ได้เดินทางมายัง สภ.เดชอุดม เพื่อขอเยี่ยมนายสุขเกษม ระหว่างนั้น นางละอองดาว ก็ได้ร้องไห้ใจแทบขาดเมื่อรู้ว่าลูกชายขับรถชนคนเสียชีวิต และอาจจะต้องติดคุกนานจนไม่ได้ออกมาเจอหน้ากันอีก 

จากการสอบถามนางละอองดาว บอกว่า ตนเองป่วยเป็นมะเร็ง มีนายสุขเกษม เป็นเสาหลักหารายได้ของครอบครัว แต่ตนเองไม่ทราบว่าลูกชายติดยาเสพติดมาก่อน จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุขเกษม ออกมาให้นางละอองดาวได้พูดคุย แต่นายสุขเกษม กลับไม่สนใจใยดี แถมยังพูดกับนางละองดาวว่า “ไม่ตายง่ายหรอก” ก่อนเจ้าหน้าที่จะพากลับเข้าไปห้องควบคุม

ด้าน น.ส.สุกัญญา อายุ 38 ปี เจ้าของร้านซ่อมแอร์รถยนต์ ที่นายสุขเกษม เข้าไปโจรกรรมรถยนต์ออกมา เล่าว่าตอนเกิดเหตุตนเองไม่อยู่ แต่มาทราบว่ารถลูกค้าหาย จึงได้เปิดกล้องดูพบว่า เป็นนายสุขเกษม อดีตลูกจ้างของทางร้าน

น.ส.สุกัญญา บอกอีกว่า นายสุขเกษม เมื่อก่อนเป็นเด็กเรียนดี ดีกรีแชมป์เหรียญทองวิทยาศาสตร์ ระดับประเทศ ครอบครัวมีฐานะยากจน คุณแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ตนจึงให้นายสุขเกษม ทำงานที่ร้านเพื่อจะได้มีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว และรักษาแม่ที่ป่วยมะเร็ง

ที่ผ่านมา นายสุขเกษม ไม่เคยมีปัญหาเรื่องลักทรัพย์ จนระยะหลังนายสุขเกษม เริ่มติดเพื่อน และติดยาเสพติด จึงไม่ได้มาทำงานและหายไป จนกระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนเรื่องของความเสียหายของรถลูกค้า ตนเองอาจจะต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด เจ้าของรถเองก็เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น มีการพูดคุยกันแล้ว แต่สภาพจิตใจของแม่นายสุขเกษม ตอนนี้ก็ย่ำแย่มาก ตนอยากให้มีการปราบปรามยาเสพติดให้เด็ดขาด จากเด็กที่เรียนดีตั้งใจทำงานต้องมาเสียเพราะยาเสพติด

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.เดชอุดม ได้ทำการแจ้งขอกล่าวหานายสุขเกษม ว่า ขับรถโดยประมาณทำให้ผู้ถึงแก่ความตาย ทำให้เสียทรัพย์ และเสพยาเสพติดประเภทที่ 1 ยาบ้า ซึ่งนายสุขเกษมใ ห้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนประเด็นเรื่องของลักทรัพย์รถยนต์กระบะเหตุเกิดในพื้นที่ของ สภ.ห้วยข่าบุณฑริก ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะได้ทำการขออนุมัติหมายจับและอายัดตัวต่อศาลเพื่อไปดำเนินคดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง