ดินไหลทับบ้าน มีคนเสียชีวิต จ.ยะลา

ห้องข่าวภาคเที่ยง - พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นอีกพื้นที่หนึ่งเจอฝนตกหนักต่อเนื่อง บ้านถูกน้ำท่วมเดือดร้อนหนัก ยังมีน้ำไหลบ่าจากเขาลงมาสมทบ และเกิดดินไหลทับบ้านเสียชีวิต

ดินไหลทับบ้าน มีคนเสียชีวิต จ.ยะลา
เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮขุดดินค้นร่างของ นายสุภโชค อายุ 22 ปี ชาวบ้านพื้นที่หมู่ 1 ตำบลคีรีเขต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ใต้ซากปรักหักพัง เนื่องจากบ้านถูกดินไหลทับพังทั้งหลัง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง จึงพบร่างของ นายสุภโชค เสียชีวิตภายในบ้าน

พ่อของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกับลูกชายนั่งเล่นอยู่ในบ้าน ขณะนั้นมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จู่ ๆ ได้ยินเสียงดินไหลลงจากภูเขา ตนเองได้หนีออกมาได้ ส่วนลูกชายหนีไม่ทันถูกดินไหลทับร่างเสียชีวิต 

อพยพ "ผู้ป่วยติดเตียง" หนีน้ำท่วม จ.ยะลา
กำลังพลจากกองร้อยทหารพรานที่ 4116 เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง ออกจากพื้นที่บ้านแอแกง หมู่ 5 ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน เรียกได้ว่า ยกมาทั้งเสื่อปูรองขณะนอนอยู่ในบ้านพัก ท่ามกลางฝนที่ตกมาต่อเนื่อง และยังเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำสายบุรี กำลังมีน้ำไหลตอนบนไหลมาลงมาเพิ่มเติม

ส่วนในเขตเทศบาลนครยะลา หลังประกาศแจ้งเตือนให้ชุมชนต่าง ๆ ในเขตตัวเมืองเทศบาลนครยะลา อาทิ ชุมชนตลาดเมืองใหม่ ชุมชนคุปตาสา ชุมชนคูหามุข และชุมชนหัวสะพานสะเตง ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ยกสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพกลุ่มเปราะบางผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ไปยังศูนย์พักพิงของเทศบาลนครยะลา เนื่องจากมวลน้ำจำนวนมากจากตำบลละแอ อำเภอยะหา กำลังระบายมาในเขตตัวเมือง

แม่น้ำปัตตานีล้นตลิ่ง ท่วมหลายชุมชน จ.ปัตตานี
ขยับไปพื้นที่เมืองปัตตานี นอกจากฝนตกหนักแล้ว ยังมีมวลน้ำที่ไหลบ่ามาจากจังหวัดยะลา ลงแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี น้ำล้นตลิ่งท่วมถนนสายต่าง ๆ ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเป็นกั้นเส้นทาง และเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันจันทร์ ทำให้หลายคนจำเป็นต้องไปทำงานและนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ขับผ่าน้ำท่วม ไปทำให้มีรถเสียหลายคัน

ในขณะที่ร้านค้าในย่านเศรษฐกิจหลายร้านต้องปิด เพราะน้ำได้ท่วมเข้าในร้าน ต้องรีบขนของขึ้นที่สูง ป้องกันความเสียหาย บางร้านน้ำกระสอบทรายวางกั้นแต่ก็กั้นไม่อยู่ ต้องระวังคลื่นน้ำจากรถที่ขับผ่าน ตอนนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทุก 12 อำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 200,000 คน เสียชีวิตแล้ว 3 คน

คลองตันหยงมัส น้ำล้นตลิ่งท่วมขยายวงกว้าง จ.นราธิวาส
ในพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ปริมาณน้ำในคลองตันหยงมัส เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่บ้านฮูลูปาเร๊ะ หมู่ 1 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ ตัดกับถนนสายบ้านตอหลัง ตำบลตันหยงมัส ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร และเส้นทางไปอำเภอเจาะไอร้อง ชาวบ้านต้องขนของขึ้นที่สูง และอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้าน

ทางอำเภอได้จัดตั้งศูนย์อพยพ เพื่อรองรับผู้ประสบภัย และจัดสรรพื้นที่ปลอดภัยให้กับครอบครัวที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านบางส่วนติดค้างอยู่ในบ้าน เนื่องจากระดับน้ำสูง เจ้าหน้าที่ทหารได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ

ขยับขึ้นมาพื้นที่ภาคใต้ตอนบน หลายพื้นที่ยังถูกน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะที่จังหวัดสตูล มวลน้ำไหลบ่าท่วมพื้นที่ตัวเมืองแล้ว

น้ำเอ่อท่วมตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล จ.สตูล
มวลน้ำตอนบน ได้ไหลเข้าท่วมตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ขายในตลาดสด เร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง แต่ก็มีบางคนขนย้ายสิ่งของไม่ทันถูกน้ำท่วมเสียหาย เส้นทางขาเข้าเมืองสตูลจุดรอยต่อระหว่างเขตเทศบาลตำบลคลองขุด และเขตเทศบาลเมืองสตูล น้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่ปิดการจราจร รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้

ส่วนในพื้นที่ละงู และอำเภอควนโดน น้ำยังท่วมสูง และยังมีมวลน้ำไหลมาสมทบอีกระลอก เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง

นอกจากนี้ไม่ใช่เฉพาะคนที่ต้องอพยพหนีน้ำท่วม ภาพที่เห็นเป็นภาพของเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะที่ต้องอุ้มแพะเดินลุยน้ำ เพื่อนำแพะไปไว้บนพื้นที่สูง

ตอนนี้ มีน้ำท่วมครอบคลุมทั้ง 7 อำเภอ โรงเรียนสั่งปิด จนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติกว่า 80 แห่ง ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 21,920 คน เสียชีวิต 1 คน

พื้นที่ปลายน้ำ น้ำเริ่มเอ่อท่วมบ้าน จ.พัทลุง
น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง แม้ฝนจะเริ่มทิ้งช่วง แต่ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มตอนล่างกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอควนขนุน น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน สวนปาล์ม และพื้นที่สองฝั่งถนนสายลำปำ-ทะเลน้อย ทำให้ผิวจราจรมีน้ำไหลผ่านเป็นระยะ แม้รถยังสามารถผ่านได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง

ขณะที่ในเขตอำเภอเมือง เขาชัยสน และปากพะยูน ยังคงมีบ้านเรือนกว่า 5,000 ครัวเรือน ที่ถูกน้ำท่วมขังต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเยาวชนชายอายุ 14 ปี สูญหายในพื้นที่ตำบลฝาละมี อำเภอปากพะยูน ซึ่งหน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหา

น้ำท่วมขยายวงกว้าง จ.ตรัง
ภาพมุมสูงจะเห็นน้ำท่วมในตลาดสด อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ขยายวงกว้างมากขึ้น เพราะยังมีน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดและน้ำจากลำคลองสาขาไหลลงมาสมทบ ประกอบกับยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำล้อมรอบเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยระดับน้ำในวันนี้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ย 50 เซนติเมตร ถึง 3 เมตร

โดยที่บริเวณหัวสะพานเก่า เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว มีระดับน้ำลึกประมาณ 1-2 เมตร ชาวบ้านกว่า 100 คน ต้องอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้าน ส่วนคนที่มีบ้านชั้นเดียวต้องออกไปอาศัยบ้านญาติชั่วคราว ขณะที่หลายหน่วยงานนำเรือท้องแบนออกรับ-ส่งผู้ป่วย เด็กและคนชราเพื่อออกจากบ้านไปหาหมอ และไปหาซื้ออาหารมากักตุนไว้ แต่จำนวนเรือก็ยังไม่เพียงพอ เพราะชาวบ้านในชุมชนที่ถูกน้ำท่วมกว่า 500 หลังคาเรือน บางส่วนต้องเดินลุยน้ำที่ลึกกว่า 1 เมตร เข้า-ออกหมู่บ้าน เพื่อไปทำธุระข้างนอก โดยน้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 15 ปี เพราะมีฝนตกติดต่อกันถึง 5 วัน