ทีมสัตวแพทย์ดูแลรักษาผ่าตัด “เล็บจิกนิ้วเท้า” ให้กับคู่เสือโคร่งชราวัย 18 ปี ชื่อว่า “ข้าวปั้น” และ “ข้าวผัด” และได้ตรวจสุขภาพ รวมถึงให้ยา ล่าสุด ฟื้นจากยาสลบ กลับมาดื่มน้ำและกินอาหารได้ตามปกติ
วันนี้ (1 ธ.ค. 68) สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เผยว่า "ข้าวปั้น" และ "ข้าวผัด" คู่เสือโคร่งสูงวัย อายุ 18 ปี ประสบปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสัตว์สูงวัย โดยเฉพาะอาการเล็บงุ้มจิกเข้าสู่เนื้อนิ้วเท้า ซึ่งหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่การติดเชื้อและความเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้ ทางทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด
นอกจากปัญหาเรื่องเล็บแล้ว "ข้าวปั้น" เสือโคร่งเพศผู้วัย 18 ปี ยังมีภาวะหลอดลมตีบที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่องและได้รับยาขยายหลอดลมเป็นประจำ ทั้งยังมีอาการบวมอักเสบบริเวณต้นขาหน้า เนื่องจากการชอบนอนบนพื้นปูน ซึ่งทีมสัตวแพทย์ก็ได้ดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดด้วย
โดยการรักษาครั้งนี้นับเป็นภารกิจที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญขั้นสูงและความละเอียดรอบคอบ โดยความร่วมมือระหว่างทีมสัตวแพทย์จากศูนย์ฯ บึงฉวาก และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ครอบคลุมการวางยาสลบที่คำนึงถึงอาการหลอดลมตีบของข้าวปั้นเป็นพิเศษ, การตัดแต่งเล็บที่งุ้มผิดรูปของทั้งสองตัวอย่างละเอียด, การตรวจสุขภาพครบวงจร รวมถึงการให้สารน้ำ ยาปฏิชีวนะ ยาลดอักเสบ และวิตามินบำรุง ซึ่งภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยดี
ทั้งนี้ "ข้าวปั้น" และ "ข้าวผัด" ฟื้นจากยาสลบอย่างปกติ และสามารถกลับมาดื่มน้ำและกินอาหารได้ตามปกติ ล่าสุด สุขภาพของเสือโคร่งทั้งสองอยู่ในเกณฑ์ปกติดี และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจาก สพ.ญ.กิตติยาภรณ์ เอี่ยมสะอาด ซึ่งยืนยันว่าการดูแลสัตว์ป่าสูงวัยต้องใช้ความละเอียดอ่อน เพื่อให้สัตว์ป่าเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในช่วงบั้นปลาย