อายัด 2.1 ล้าน ซุกท้ายกระบะขับไปจอดริมแม่น้ำโขง เจ้าของชี้แจงที่มาของเงินไม่ได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขยายผล เกี่ยวข้องกับขบวนการผิดกฎหมายข้ามชาติตามแนวชายแดนหรือไม่
ความคืบหน้าภายหลังชุดปฏิบัติการพิเศษทหารเรือ (นรข.) เขตเชียงราย ร่วมกับตำรวจ ตรวจสอบรถกระบะต้องสงสัย ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ทางด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พบสามีภรรยาชาว จ.สุรินทร์ ซุกเงินสด 2.1 ล้านบาท ไว้ในกล่องเสื้อผ้า แต่เมื่อสอบถามไม่สามารถแจกแจงถึงที่มาของเงินได้
การตรวจยึดเงินสดดังกล่าว เกิดขึ้นวานนี้ (30 พ.ย.68) เวลาประมาณ 16.15 น. นาวาเอก ภากร มาเนียม ผู้บังคับหน่วย นรข. เขตเชียงราย นาวาโท วรวิทย์ นพเก้า หัวหน้าสถานีเรือเชียงแสน นรข.เขตเชียงราย พ.ต.ท.กิตติภูมิ กันจินะ รอง ผกก.สส.สภ.เชียงแสน อำนวยการให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษ นรข.เขตเชียงราย ตำรวจ สภ.เชียงแสน และตำรวจน้ำ .12 บก.รน. เชียงแสน ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งว่ามีรถยนต์กระบะต้องสงสัย อาจมีของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ ขับไปจอดอยู่บริเวณถนนริมแม่น้ำโขง ชายแดนไทย-ลาว-เมียนมา เขตบ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
ผลการตรวจสอบพบว่า รถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะสีขาว ตรวจค้นภายในรถและท้ายกระบะพบกล่องพลาสติกสำหรับใส่เสื้อผ้า ซึ่งวางอยู่ที่ด้านท้ายกระบะ มีธนบัตรชนิด 1,000 บาท อยู่เป็นจำนวนมากถึง 2,100 ใบ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,100,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง
เจ้าหน้าที่สอบถามถึงที่มาของเงินสดจำนวนดังกล่าว แต่ทั้งนายไพลินและนางดวงนภา ไม่สามารถแจ้งรายละเอียด รวมทั้งไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงเพื่อพิสูจน์แหล่งที่มาของเงินได้อย่างชัดเจน จึงสันนิษฐานว่าเงินสดจำนวนดังกล่าวนี้อาจได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย หรือมีความเชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบนำพาคนเข้าเมือง หรือเกี่ยวข้องการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จึงได้ทำการตรวจยึดเงินสดและโทรศัพท์มือถือไว้ทั้งหมด พร้อมทั้งให้เจ้าของเงินนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเส้นทางการเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไป
จากนั้นได้นำเงินสดของกลางทั้งหมด ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการผิดกฎหมายข้ามชาติตามแนวชายแดนหรือไม่