อภิสิทธิ์ เผย คนแห่สมัคร สส. ปชป. เร่งสรรหาให้ทันเลือกตั้ง มองสัญญาณยุบสภายังไม่ชัด ย้ำ สถานะพรรคเป็นฝ่ายค้าน ลั่น มีข้อมูลสแกมเมอร์ ยังไม่คุยพรรคฝ่ายค้านใช้ซักฟอกหรือไม่
วันนี้ (3 ธ.ค.68) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำถึงความพร้อมของพรรคในการเตรียมผู้สมัครลงรับเลือกตั้งว่า หลังจากที่พรรคปิดรับสมัครผู้ที่ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศแล้ว มีคนให้ความสนใจจำนวนมากผ่านโครงการ “สส. ที่ดีคุณเองก็เป็นได้นะ” จากนี้จะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นจากสาขาพรรค ตามขั้นตอนของกฎหมาย ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมของส่วนกลางที่เปิดโอกาสให้แสดงวิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมด้วย โดยพรรคจะเร่งทำกระบวนการเหล่านี้ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้พร้อมทันการเลือกตั้ง และแม้ว่าหลายเขตจะมีผู้ประสงค์ลงสมัครมากกว่ากว่า 1 คน ก็จะต้องมีการพิจารณากันเป็นการภายในโดยคณะกรรมการสรรหาของพรรค ด้วยมาตรการและหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดอย่างเหมาะสม เช่น วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ และอุดมการณ์ทางการเมือง เป็นต้น ส่วนคนที่ไม่ได้รับเลือกให้ลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็จะมีการชวนมาทำงานในตำแหน่งอื่นกับพรรคต่อไป
ส่วนกรณีที่ กกต. ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ออกมา มีบางจังหวัดถูกลดเขตเลือกตั้ง เช่น จ.นครศรีธรรมราช ลดจาก 10 เหลือ 9 เขต นั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ในแต่ละพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลง รองหัวหน้าพรรคที่กำกับดูแลอยู่ ก็มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ตามการเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากร
ขณะที่สัญญาณการยุบสภาน่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ มองว่า ตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่ดูเหมือนว่า นายกรัฐมนตรีจะนำเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาเป็นเงื่อนไขหนึ่งของการยุบสภาด้วย ก็ยังไม่รู้ว่าแต่ละพรรคจะตัดสินใจอย่างไร ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องเตรียมพรรคให้พร้อมเร็วที่สุด มีเวลาเตรียมตัวน้อย เพราะเพิ่งเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค
เมื่อถามถึงสถานะของพรรคประชาธิปัตย์ หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์จะยืนอยู่ฝั่งไหน นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์มีสถานะเป็นฝ่ายค้าน เบื้องต้นนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค ได้ประสานงานกับแกนนำฝ่ายค้านอยู่ตลอด เพราะมีข้อมูลเกี่ยวกับสแกมเมอร์อยู่พอสมควร โดยเฉพาะหลังจากที่ ปปง. ได้ดำเนินการยึดทรัพย์ นายเบน สมิธ นั่นหมายความว่า ปปง.พบความเชื่อมโยงการกระทำความผิด และหวัง ปปง.เดินหน้าสอบสวนเรื่องนี้ต่อไปตามอำนาจที่มี ป้องกันไม่ให้มีการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ขณะเดียวกันขอตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า กรณีที่มีการตั้งอดีตที่ปรึกษา หรือ ทีมกฎหมายของนายเบน สมิธ มีความเหมาะสมหรือไม่ที่จะให้มีตำแหน่งในรัฐบาล ส่วนจะนำเรื่องเหล่านี้ ไปเป็นประเด็นในการซักฟอกรัฐบาลหรือไม่ ยังไม่ได้คุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ก็ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเอาไว้ก่อน
