อนุทิน ลั่น ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าปราบสแกมเมอร์ ครั้งเดียวยึดทรัพย์หลักหมื่นล้าน

อนุทิน ลั่น ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าปราบสแกมเมอร์ ครั้งเดียวยึดทรัพย์หลักหมื่นล้าน

View icon 12
วันที่ 5 ธ.ค. 2568 | 10.05 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“อนุทิน” ลั่น ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าปราบสแกมเมอร์ ครั้งเดียวยึดทรัพย์หลักหมื่นล้าน เตรียมขยายผลมีขาใหญ่คนไทยหรือไม่ หลังจีนเทาสัปปะรังเค ลักลอบใช้ไฟ ใช้ทำรัฐสูญเงิน 2,000 ล้านบาท ฟาดกลับ เพื่อไทย กล่าวหาทำงานไร้ประสิทธิภาพ

วันนี้ (5 ธ.ค.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความรู้สึก ที่เจอหลากหลายสถานการณ์ในช่วงนี้ รวมถึงเรื่องการปราบสแกมเมอร์ โดยถามกลับว่าตอนนี้มีอะไรที่ถาโถม พร้อมถามเรื่องการปราบสแกมเมอร์ ว่าเคยมีใครเคยยึดทรัพย์และเงินทีเดียวหลักหมื่นล้านบาท เคยมีใครประกาศชื่อ คนที่อยู่เมืองไทยมานานและมีเครือข่าย ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนเงียบกันหมด และมีรัฐบาลไหนที่ทำได้แบบนี้ ตนประกาศรายชื่อสแกมเมอร์และเส้นทางการเงิน ยึดทรัพย์อายัดทรัพย์ บ้าน ที่ดิน เรือยอร์ช หุ้น รถ 386 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่ออายัดเสร็จแล้วก็มาถามว่าทำไมไม่ดำเนินคดี เพราะคนถามไม่รู้เรื่อง เพราะการอายัดต้องไปดำเนินคดีต่อตามขั้นตอน

ขณะเดียวกัน ยังมีการจับเครื่องขูดบิดคอยน์ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท ซึ่งคนเหล่านี้ นอกจากจะทำความชั่ว ก่อให้เกิดความเสียหาย ก่ออาชญากรรมในประเทศ และยังมีการลักไฟใช้ เสียหายไปแล้วประมาณ 2 พันล้านบาท ไม่เคยมีรัฐบาลไหนไปดูแล โดยเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) ตนได้เชิญผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้ามาพูดคุยและให้ไปดำเนินการ ซึ่งก็จะได้เห็นอีกว่ามีขาใหญ่อะไรอีกหรือไม่ที่ลักไฟใช้

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ขนาดพวกจีนเทา จีนสัปปะรังเคพวกนี้ ยังใช้ ขนาดเป็นคนต่างชาติ มันยังแอบใช้ไฟของคนไทยได้ แล้วขาใหญ่ประเทศไทยมีหรือเปล่าก็ต้องดู มันจะเกิดการขยายผลมากมาย นี่แหละ 2 เดือน ทำงานกันหมดทุกคน

ส่วนมาตรการเดินหน้าเชิงรุกในการปราบสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็จะดำเนินการไปเรื่อย ๆ พร้อมยกตัวอย่าง สแกมเมอร์ที่ข้ามฝั่งเข้ามาในประเทศไทยหลังจากถูกทรมาน และเหยียบกับระเบิดไปแล้ว ก็ถูกจับไปได้อีก 1 คน ส่วนเรื่องการเมืองก็ไม่มีอะไร การที่มาบอกว่าตนถูกปรับออกจากกระทรวงมหาดไทย เพราะทำงานช้ามีประสิทธิภาพ เขาคงลืมอ่านโพลไป ในยุครัฐบาล นายเศรษฐ ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจาก 2 คนนี้ ตนก็เป็นลำดับ 2 พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ลำดับ 2 เลย และตนได้ลำดับที่ 2 ก็ทิ้งลำดับที่ 3 ห่างด้วย ฉะนั้นเวลาพูดก็พูดไปเรื่อย คนไม่รู้เรื่องคิดอะไรไม่ได้ก็โทษโนโทษนี่ไปก่อน แต่ของตนชัดเจน และหากห่วยจริง การที่ขอมหาดไทยคืน และย้ายตนไปอยู่สาธารณสุข ถ้าห่วยจริงไม่มีประสิทธิภาพจริงคนที่ขอให้ออกจากมหาดไทย ที่รับผิดชอบความมั่นคง จะเอาคนห่วยๆ ไปดูแลชีวิตประชาชนจะไม่ยิ่งหนักไปกว่าเดิมหรือ ฉะนั้นไม่ได้ห่วย เพราะท่านก็บอกว่าทำงานได้ดี ทุกคนก็ชม

เมื่อถามว่าคะแนนเต็ม 10 ให้ตัวเองเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ ก่อนจะหัวเราะ แล้วบอกว่า “เดี๋ยวหาว่าคุย”

ส่วนกรณีที่นางสาวแพทองธาร แชร์โพสต์ไอจีสตอรี่ข่าว พร้อมข้อความ เอ๊า หลังมีการเสนอข่าวต้องออกจากมหาดไทย เพราะไม่ให้สัญชาติ เบน สมิธ ว่า ท่านรู้เรื่องดีหมด เวลาที่ที่คุยกัน ก็มีนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ทุกครั้ง และมี นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วย ก็อย่าลืมว่า ก็อย่าลืมว่าไม่ได้ถูกปลด และพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล การที่มาบอกว่าตนทำงานช้า มันจับโกหกได้หลายอย่าง เพราะคะแนนโพลตนก็มาที่ 2 ซึ่งดีแล้ว โชคดีที่ไม่มาที่ 1 ถ้าทำงานไม่ดีจริง ก็คงไม่ปรับไปอยู่กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งดูแลชีวิตของประชาชน การเอาคนไม่ได้เรื่องไปดูแลชีวิตประชาชน เท่ากับคนแต่งตั้งแย่ ตนจึงคิดว่าคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนั้น รอให้คนที่อยู่ในการพูดคุยมาให้ข้อมูล ให้คนที่รู้เรื่องออกมาให้ข้อมูลดีกว่า ส่วนคนที่ไม่รู้เรื่องอย่าไปฟังเพราะเขามาไม่ถึง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง