รมช.กลาโหม ย้ำไทยมีเอกราช ไม่หวั่นคำกล่าวอ้างกัมพูชา ส่วนเรื่อง PHL-03 ขอประชาชนฟังข้อมูลจากกองทัพเท่านั้น
วันนี้ (11 ธันวาคม 2568) พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ ชายแดนไทย–กัมพูชา และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปราสาท อำเภอปราสาท โดย รมช.กลาโหม ได้สอบถามอาการบาดเจ็บ การรักษา และให้กำลังใจกำลังพล พร้อมชื่นชมความเสียสละของทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศอย่างเข้มแข็ง
พลโท อดุลย์ฯ เผยถึงประเด็นด้านความมั่นคงบริเวณชายแดน ภายหลังมีกระแสข่าวว่ากัมพูชาอาจมีการเคลื่อนย้ายระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 มาประชิดแนวชายแดน โดยระบุว่า ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจาก กองทัพภาคที่ 2 หรือ กองทัพบก ซึ่งเป็นช่องทางทางการเท่านั้น หากมีการเคลื่อนกำลังจริง หน่วยงานด้านความมั่นคง จะเป็นผู้แถลงอย่างเป็นทางการ เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกจากข่าวลือหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
ในกรณีที่กัมพูชาพยายามอ้างว่าไทยมีแนวโน้มรุกรานประเทศที่อ่อนแอกว่า รวมถึงการพยายามดึงประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง พลโท อดุลย์ ย้ำชัดว่า ประเทศไทยมีเอกราช มั่นคง และไม่สนใจคำกล่าวอ้างที่บิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา พร้อมย้ำว่ากองทัพไทยมีท่าทีชัดเจนคือป้องกันประเทศ ไม่ใช่ผู้ก่อความขัดแย้ง
รมช.กลาโหมยังระบุด้วยว่า ได้หารือถึงการเตรียมพร้อมของกำลังพลในพื้นที่แนวหน้า ซึ่งยังคงมีขวัญกำลังใจดี และได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ในส่วนของศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยจากพื้นที่ชายแดน ได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ ทุกหน่วยงาน ทั้งนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน โดยประชาชนในพื้นที่จะรับข้อมูลผ่านผู้นำท้องที่เท่านั้น เพื่อลดความสับสนจากข่าวปลอม
พลโท อดุลย์เน้นย้ำว่า สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ประชาชนควรเชื่อถือข้อมูลจากหน่วยงานรัฐเป็นหลัก พร้อมยืนยันว่าไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการปกป้องอธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และการสื่อสารอย่างโปร่งใสจากภาครัฐในทุกขั้นตอน