ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เบื้องหลังปฏิบัติทางการทหาร ทวงคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย ในการยิงปะทะรอบที่ 2 คราวนี้เป็นการดวลกันของรถถัง ที่ทำให้เห็นถึงขีดความสามารถทางการรบของไทย
ภาพการแสดงแสนยานุภาพทหารไทยนำรถถัง รุ่น M48 Patton ที่ถูกแซวว่า เป็นคุณปู่รถถัง เพราะประจำการมาตั้งแต่ปี 2522 จากกองพันทหารม้าที่ 8 ค่ายสุรนารี ไปใช้สู้รบกับรถถังของรุ่น T-55 ของฝ่ายกัมพูชา 4 คัน แล้วฝ่ายไทยสามารถทำลายรถถังฝ่ายตรงข้ามได้ เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ขีดความสามารถของไทย
"คุณปู่รถถัง" มีอีกชื่อเรียกว่า "กุญชร" มียุทโธปกรณ์เป็นปืนใหญ่ ขนาด 105 มม. และปืนกล รถถังรุ่นนี้ผลิตจากสหรัฐอเมริกา ถูกในสงครามเย็น ถูกส่งไปยังหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย มีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี แต่ยังคงมีความสำคัญในหน่วยทหารม้า ทำหน้าที่สนับสนุนการรบ และเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันก็ยังประจำการอยู่หลายหน่วยทหารของไทย
เพจฯ Thaiarmfroce.com ให้ความเห็นถึงผลลัพธ์การสู้รบจากสมรภูมิทั้งหมด "3 บ้าน" ช่วยยืนยันข้อเท็จจริงได้ว่า ทั้งรถถัง และยานเกราะของไทยไม่ได้ล้าสมัย ตรงข้ามกลับยิ่งตอกย้ำว่า "สำคัญมาก" ไม่สามารถแทนที่ด้วยโดรนได้
การเข้ามามีบทบาทของ "โดรน" จริงอยู่ว่าช่วยเปลี่ยนเกมในสนามรบ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นมาแทนที่อาวุธเดิมได้ เพราะปืนใหญ่รถถัง กระสุนสร้างความเสียหายได้รุนแรง รถถังมีเกราะหนา โดรนโจมตีใส่ได้จริง แต่ก็เสียหายเป็นส่วนน้อย ส่วนยานเกราะลำเลียงพล นอกจากจะช่วยในการเคลื่อนย้ายกำลังพลเข้าสู่พื้นที่การรบ ยังเป็นที่กำบังเคลื่อนที่ให้กับหน่วยทหารราบ และทหารม้า จึงสามารถพูดได้ว่า ถ้าไม่มีการใช้ยานเกราะแบบนี้ การสูญเสียของทหารไทยจะสูงกว่านี้ หรือแม้แต่ภารกิจ ก็อาจไม่สำเร็จได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะละเลย "โดรน" ได้ เพราะทุกชาติมีการพัฒนาการสู้รบอยู่ตลอดเวลา
