อ.เจษฎาโพสต์โต้ แชร์เตือนภัยพวงกุญแจจีพีเอส เป็นเรื่องหลอกลวง
Post Date : วันที่ 27 พ.ย. 2557 เวลา 15:24 น.
วันนี้ (27 พ.ย.) ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของ ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงข้อมูลที่กำลังถูกส่งต่อกันในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก "มันกลับมาอีกแล้ว แชร์เตือนมิจฉาชีพแจกพวงกุญแจฝังชิพ GPS" ที่มีเนื้อหาเตือนไม่ให้รับพวงกุญแจจีพีเอส ที่มีคนมาแจกให้ฟรีตามสถานที่สาธารณะ เนื่องจากภายในพวงกุญแจจีพีเอสมีอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมฝังอยู่ ซึ่งจะบ่งบอกสถานที่ ที่นำรถไปจอดหรือที่อยู่อาศัยของเจ้าของรถ ซึ่งเป็นอันตรายมากนั้น
ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาอธิบายว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมมีขนาดใหญ่กว่าพวงกุญแจมาก และยังต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อีกด้วย โดยข้อมูลของ ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ที่เผยแพร่ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก มีดังนี้
"มันกลับมาอีกแล้ว แชร์เตือนมิจฉาชีพแจกพวงกุญแจฝังชิพ GPS"
ไม่จริงหรอกครับ คือถ้ามีจริงนะครับ ใครได้รับแจกฟรีมา ผมซื้อต่อให้อันละพันบาทเลย 555
---------------------------------
ข่าวแชร์คำเตือนเกี่ยวกับ พวงกุญแจที่มิจฉาชีพเอามาแจกฟรีไว้ตามสถานที่ต่างๆ นั้นอันตรายมากเพราะฝังชิพไว้ คนร้ายจะมาติดตามเราไปถึงบ้านได้ ... จริงหรือไม่
คือต้องเข้าใจก่อนว่าเครื่องติดตามตัวด้วยสัญญาณดาวเทียมระบบจีพีเอส หรือ GPS tracker ที่วางขายกันอยู่เนี่ย มันมีขนาดใหญ่กว่าพวงกุญแจตามรูปมาก ใหญ่ประมาณครึ่งฝ่ามือ ราคาประมาณ 2 พันบาท ที่มันใหญ่เพราะต้องมีวงจรในการรับสัญญาณดาวเทียม มีวงจรในการสัญญาณออกมาอีกทีนึง และก็มีแบตเตอรี่ให้เพียงพอต่อการทำงาน ... ถ้าใครทำ GPS tracker ขนาดจิ๋วอย่างพวงกุญแจในรูป ออกมาแจกฟรีได้ ... ผมเอาไปวางขายต่อตัวละ 5-6 พันบาทสบายเลยครับ (ทางทหาร มีการวิจัยอยู่ แต่ยังไม่มีออกมาวางจำหน่าย)
เรื่องนี้ต้องไม่สับสนกับ การระบุบุคคลด้วยสัญญาณวิทยุ หรือ RFID (Radio Frequency Identification) ที่อยู่ในพวกบัตรห้องพักโรงแรม คีย์การ์ด การ์ดรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นแผงวงจรบางๆ อาศัยคลื่นวิทยุที่ยิงจากตัวสแกนที่เครื่องอ่าน (หน้าห้องพัก หรือประตูทางเข้าสถานีรถ) ต่างหาก มันจึงไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ให้มีขนาดใหญ่
เครดิตข้อมูลและภาพ เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant อ.เจษฎาโพสต์โต้แชร์เตือนภัยพวงกุญแจจีพีเอส