สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานอาหารของสิงคโปร์ หรือ เอสเอฟเอ เข้าตรวจสอบร้านอาหารไทย หลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบนำเข้า และขายเลือดหมูก้อนในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในโกลเดน ไมล์ ทาวเวอร์ ของสิงคโปร์
เมื่อไปถึงร้านที่รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในร้าน พบเลือดหมูก้อนจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้เปิด จึงได้ทำการยึดมาเป็นหลักฐาน
ด้านสำนักงานอาหารสิงคโปร์ ได้ระบุว่า การนำเข้าอาหารทุกชนิดจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนด และมีใบอนุญาตนำเข้าอย่างถูกต้อง และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเลือดสัตว์เป็นส่วนประกอบ อาทิ เลือดหมู ไม่ว่าจะเป็นแบบก้อนหรือแบบใดก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่ห้ามขายภายในสิงคโปร์อย่างเด็ดขาด เพราะเลือดนั้นเป็นแหล่งเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่นๆ
แม้ว่ากระบวนการผลิตจะถูกสุขลักษณะแล้วนั้น แต่หากเลือดหมูได้สัมผัสกับอากาศมันจะถูกปนเปื้อนด้วยเชื้อแบคทีเรียทันที ทำให้ทางสิงคโปร์เป็นกังวลเรื่องความสะอาด อีกทั้งยังได้ขึ้นทะเบียนว่าเป็นอาหารผิดกฎหมาย อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารและการบริโภคโดยรวมได้อีก
ทั้งนี้ การจะนำเข้าอาหารในสิงคโปร์นั้น ผู้นำเข้าจะต้องได้รับอนุญาตก่อน และการส่งมอบทุกครั้งจะต้องได้รับการประกาศและมีใบอนุญาตนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทางสำนักงานอาหารสิงคโปร์ จึงแนะนำให้ประชาชนที่พบการขายผลิตภัณฑ์อาหารที่ผิดกฎหมายไม่ควรให้การสนับสนุนร้านอาหารเหล่านี้ พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนแจ้งข้อมูลแก่ทางสำนักงาน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่นำเข้าเข้าและขายผลิตภัณฑ์จากเลือดหมูอย่างผิดกฎหมายนั้น สำหรับการทำความผิดครั้งแรกมีโทษอาจถูกปรับได้ถึง 50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท และถูกจำคุกสูงสุดเป็นเวลา 2 ปี แต่ถ้าหากมีครั้งต่อไปอาจถูกปรับมากถึง 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 3.4 ล้านบาท และถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี
ขณะที่ ด้านนายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีการส่งออกเลือดหมูไปยังสิงคโปร์ เนื่องจากทราบถึงข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นอย่างดี และขอเตือนประชาชนที่ประกอบการหรือจะเดินทางไปประเทศใดก็ตาม ให้การศึกษากฎหมายอย่างละเอียด และไม่ละเมิดกฎหมายของประเทศนั้นๆ
